“อาหารทะเลสดใหม่ เทศกาลสุดปังทุกฤดูกาล ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่ง”
ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง “ฮอกไกโด” ดินแดนที่ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติล้วนพาครอบครัวมาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวฤดูร้อน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลโอบง หรือ Obon (วันที่ 13-16 สิงหาคมของทุกปี) แม้ที่เกาะอื่นจะอากาศร้อนจัด แต่อุณหภูมิฮอกไกโดกลับไม่ร้อนชื้นเกินไป ทำให้ท้องฟ้าแจ่มใส ได้ชมดอกไม้งามทั่วเมือง
ถ้าเพื่อน ๆ อยากรู้ว่าเที่ยวฮอกไกโดเดือนไหนดีถึงจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแจ่ม ๆ ไปพร้อมกับชาวญี่ปุ่น หรือกำลังหาไอเดียแต่งตัวเที่ยวฮอกไกโดสไตล์ชิค ๆ มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลย !
เมื่อเข้าใจสภาพภูมิประเทศโดยรวมของฮอกไกโดไปแล้ว มารู้จักกับ 15 ที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนกันเลย !
สาว ๆ คนไหนชื่นชอบดอกไม้นานาพันธุ์ หรืออยากได้วิวถ่ายรูปสุดปังท่ามกลางดอกไม้หลากสีสัน ต้องมาที่โทมิตะฟาร์มในฮอกไกโดช่วงหน้าร้อนเลย เพราะถ้าไปฤดูอื่น คุณอาจไม่ได้เห็นทุ่งดอกไม้ที่สวยงามขนาดนี้
สำหรับโทมิตะฟาร์ม นอกจากจะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เพราะมีไฮไลต์อยู่ที่ทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงบานสะพรั่งใจกลางฟาร์มแล้ว ยังมีทุ่งดอกไม้อื่น ๆ ที่ทุกคนต่างก็พากันตกหลุมรักตั้งแต่พบเห็นเป็นครั้งแรก เช่น ทุ่งฮานามิโต (Hanamito Field) ซึ่งปลูกดอกไม้หลากสีสันพันธุ์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่ดอกลาเวนเดอร์ด้วย
ตั้งอยู่บนบริเวณหุบเขาจิโกะคุดานิ สาเหตุที่ได้ชื่อว่า “ทางเดินแห่งไฟของปีศาจ” เนื่องจากมีบ่อน้ำพุร้อน และควันกำมะถันคละคลุ้งไปทั่วตลอดเวลา อีกทั้งดินโคลนยังเป็นสีน้ำตาลอมแดง นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเคยพบเห็นเป็นครั้งแรก ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นึกว่าอยู่ในนรกกระทะทองแดง” ยิ่งไปกว่านั้น สองข้างของทางเดินไม้ยังตกแต่งด้วยโคมไฟนับไม่ถ้วน ให้บรรยากาศเหมือนปีศาจกำลังเดินอยู่นั่นเอง
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโดช่วงหน้าร้อนที่สายมูห้ามพลาด คือ เนินแห่งพระพุทธเจ้า ผลงานชิ้นโบแดงของ Tadao Ando สถาปนิกผู้ได้รับรางวัลพริตเกอร์ โดยองค์พระพุทธเจ้าจะประดิษฐานตรงกลางพื้นที่ โอบล้อมด้วยพระพุทธรูปองค์ต่าง ๆ ที่มีระดับลดหลั่นต่างกัน จนมีรูปร่างเป็นเนินเขา ปกคลุมด้วยดอกลาเวนเดอร์นับไม่ถ้วนในลักษณะขั้นบันได
สวนสาธารณะขนาดใหญ่หนึ่งเดียวประจำเมืองซัปโปโร ภูมิภาคฮอกไกโด ที่ช่วงหน้าร้อนจะมีชาวญี่ปุ่นพาบุตรหลานมาเที่ยวชมธรรมชาติ น้ำตก และเครื่องเล่นสนุก ๆ อย่างครบครัน แต่ถ้ามาเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว เดือนธันวาคม สวนแห่งนี้จะกลายสภาพเป็นลานเจ็ตสกีขนาดใหญ่ พร้อมเปลี่ยนโฉมเป็น “ทาคิโนะสโนว์เวิลด์” ดังนั้น หากไม่รู้ว่าควรไปฝึกขี่เจ็ตสกีที่ไหนดี แนะนำให้มาที่สวนแห่งนี้ช่วงฤดูหนาวเลย เพราะช่วงที่ฮอกไกโดอากาศหนาวเย็นเหมาะแก่การเล่นกีฬาชนิดนี้เป็นที่สุด !
หากมาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนแล้วมองหาจุดชมวิว ต้องมาเยือนภูเขาฮาโกดาเตะเลย การันตีความสวยในระดับที่มิชลินกรีนไกด์ยกนิ้วให้ว่าประสบการณ์เหมือนมาเยือนจุดชมวิวเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลีเลยทีเดียว
มาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนทั้งที ห้ามพลาดทริปนั่งเรือล่องคลองโอตารุเพื่อสัมผัสลมเย็น ๆ และแสงแดดอบอุ่น โดยสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์จำนวนมาก อีกทั้งตอนกลางคืนยังตกแต่งด้วยโคมไฟนับไม่ถ้วน ให้ความรู้สึกชวนฝันแบบสุด ๆ
นอกจากโทมิโตะฟาร์มแล้ว หากต้องการชมดอกลาเวนเดอร์ สามารถแวะมาที่ทุ่งลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ ซึ่งตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองซัปโปโรได้เช่นกัน แนะนำให้เดินขึ้นไปยอดสุดของเนินแล้วมองลงมา จะเห็นวิวทั่วเมืองซัปโปโรทั้งหมด พร้อมเห็นทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงเข้มดูสวยงามละลานตา รับรองว่าเห็นแล้วอดใจไม่ไหว ต้องกดชัตเตอร์กล้องกันรัว ๆ
สำหรับใครที่กำลังมองหาจุดถ่ายรูปชมวิวพระอาทิตย์ตกอันงดงามของฮอกไกโดหน้าร้อน ต้องมาเยือนที่เขาโมอิวะ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร ฮอกไกโด ด้านบนภูเขาจะมีตุ๊กตาโมริซุ หน้าตาคล้ายกระรอก อันเป็นสัญลักษณ์ของภูเขาตั้งอยู่ แล้วยังมีร้านขายของฝากตุ๊กตาน้องกระรอกไปฝากคนทางบ้านด้วย
อยากชมวิวทะเลอันกว้างใหญ่ พร้อมสัมผัสแสงแดดอบอุ่นในฮอกไกโดหน้าร้อน ต้องเดินทางมาที่แหลมคามูอิแห่งเมืองชาโคตัน โดยระหว่างทางคุณจะได้ชมธรรมชาติอันงดงามมากมาย เมื่อเดินถึงสุดปลายแหลม คุณจะได้พบกับประภาคารอันเก่าแก่ และหินประหลาดรูปร่างคล้ายคน
อยากสัมผัสบรรยากาศโรงงานช็อกโกแลตของจริง เหมือนหลุดไปในภาพยนตร์เรื่อง “โรงงานช็อกโกแลตมหัศจรรย์” ที่ Johnny Depp แสดงนำเป็นวิลลี่ วองก้า ต้องมาที่นี่เลย เพราะด้านในจะมีโซน Workshop จัดแสดงต่าง ๆ และประวัติการเดินทางของช็อกโกแลตแสนอร่อย แต่ขอเตือนว่าอย่าชมเพลินเกินห้ามใจ เพราะในโรงงานมีขนมหวานขายตลอดทาง ระวังน้ำหนักขึ้นไม่รู้ตัว !
น้ำสีฟ้าที่แปลกแต่จริงในเมืองบิเอะ ! ซึ่งเป็นที่เดียวในญี่ปุ่นที่จะเจอกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้ โดยเกิดจากน้ำในเขื่อนผสมกับแร่ธาตุกำมะถันจากภูเขาไฟที่ปะทุใกล้เคียง และสะสมเป็นเวลานาน แต่ละวันก็จะเฉดสีไม่เท่ากัน ยิ่งถ้าเป็นฮอกไกโดหน้าร้อนก็จะเห็นสีฟ้าหลายเฉดสุด ๆ แต่ ! เห็นสวย ๆ แบบนี้ก็อันตรายเหมือนกัน ฉะนั้น ห้ามลงเล่น และห้ามชิมน้ำเด็ดขาด
โกดังอิฐอันเก่าแก่ เป็นสถานที่รองรับการค้าขายของนักเดินเรือที่มาเยือนฮอกไกโดในอดีต แต่ปัจจุบันได้กลายสภาพเป็นศูนย์การค้าสุดชิค ให้ฟีลเอเชียทีคบ้านเราแบบสุด ๆ ส่วนด้านในโกดังนอกจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งแล้ว ยังเป็นร้านอาหารและบาร์ต่าง ๆ ที่คุณสามารถเข้าไปนั่งชิล ดับเหงื่อ หากมาเยือนฮอกไกโดหน้าร้อนอีกด้วย
แหล่งบันเทิงเอาใจขาช้อปประจำฮอกไกโด เพื่อน ๆ ผู้ชื่นชอบท่องราตรีขอบอกเลยว่าอย่าพลาด เพราะมาที่เดียวจะได้พบทั้งร้านราเม็งสุดอร่อย คลับ บาร์ชื่อดัง พร้อมดับเหงื่อ คลายหิวระหว่างเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน ถ้าอยากเห็นว่าร้านปาจิงโกะของจริงเป็นอย่างไร มาเยือนที่ย่านนี้ได้
สวนสัตว์ชื่อดังประจำเมืองอะซาฮิยาม่า ที่ได้รวบรวมน้อง ๆ สัตว์จากทั่วทุกมุมโลกซึ่งคุณอาจไม่เคยพบเจอมาก่อนในประเทศไทย เช่น หมีขั้วโลก และสัตว์ท้องถิ่นอื่น ๆ ของฮอกไกโด ไฮไลต์ของที่นี่ คือ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแบบใกล้ชิดสุด ๆ โดยไม่ได้จับใส่กรงมิดชิดเหมือนสวนสัตว์อื่นด้วย
กระท่อมไม้เล็ก ๆ กลางป่าที่เรียงรายกันท่ามกลางธรรมชาติแห่งฮอกไกโด ให้บรรยากาศอบอุ่น สวยงามขนาดทีวีกองถ่ายภาพยนตร์ต้องมาเยือน !
ก่อนตัดสินใจว่าควรเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโดเดือนไหนดี ? ต้องทำความรู้จักกับสภาพอากาศเป็นอันดับแรก โดยฮอกไกโดประกอบด้วย 4 ฤดูกาล ดังนี้
ตรงกับเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิอากาศอยู่ระหว่าง 5-25 องศาเซลเซียส ไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป
ถ้าสาว ๆ อยากถ่ายรูปสวย ๆ ใต้ต้นซากุระ แนะนำให้สวมเสื้อสีโทนอ่อน ใส่กระโปรงขายาว และเสื้อโคตสั้นทับอีกชั้น ส่วนหนุ่ม ๆ อาจสวมเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนขายาว คลุมทับด้วยเสื้อโคตแจ็กเกตผ้าวูล
ตรงกับเดือนมิถุนายน-สิงหาคม อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 16-35 องศาเซลเซียส
แต่งแบบชิว ๆ ฟรีสไตล์ได้อย่างที่ทุกคนต้องการ เพราะช่วงนี้ฮอกไกโดอากาศไม่ร้อนจนเกินไป ใส่กางเกงช้าง เสื้อยืดเดินในฮอกไกโดได้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อาจสวมเสื้อสเวตเตอร์คลุมทับอีกชั้น เผื่ออากาศบางวันเย็นกว่าปกติ
ตรงกับเดือนกันยายน-พฤศจิกายน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 1-22 องศาเซลเซียส
ถ้าสาว ๆ อยากแต่งกายให้ถ่ายรูปได้บรรยากาศฤดูดอกไม้แดง แนะนำให้สวมเสื้อโทนสีน้ำตาลเข้ม พร้อมกับกระโปรงสีน้ำตาลสุดชิค และสวมโคตสีส้มอมแดงทับอีกชั้น ส่วนหนุ่ม ๆ อาจสวมเสื้อแขนยาว แจ็กเกตกันลม คู่กับกางเกงยีนทรงกว้างขาสอบ
ตรงกับเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง -10-0 องศา
แนะนำให้ใส่เสื้อขนเป็ด เสื้อแขนยาว และรองเท้าบูต พร้อมหมวกถักไหมพรม เน้นรักษาอุณหภูมิแก่ร่างกายสู้กับอากาศหนาว
หากวางแผนเที่ยวฮอกไกโด ควรเลือกให้ถูกว่าจะเที่ยวฮอกไกโดเดือนไหนดี เพราะแต่ละฤดูจะมีอีเวนต์ประจำเทศกาลที่มีของดีไม่เหมือนกัน ดังนี้
ฤดูนี้เน้นชมดอกซากุระเป็นพิเศษ ทำให้เกิดเทศกาลฮานามิทั่วเกาะฮอกไกโด เราจะเห็นคู่รักหนุ่มสาวนั่งจีบกัน พร้อมดื่มชาร้อน ๆ กับขนมดังโงะใต้ต้นซากุระ
เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน ใครตกใจง่ายหรือกลัวดอกไม้ไฟต้องระวัง เพราะฤดูนี้จะมีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ และการแห่ศาลเจ้ารอบเมืองกันเป็นประจำ เพราะเชื่อกันว่าจะนำพาชีวิตที่มีแต่ความสงบสุขและสุขภาพแข็งแรงมาให้ชาวเกาะ
เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงขึ้นชื่อของชาวฮอกไกโด คือ “โมมิ-จี ฮาโกดาเตะ” จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่สวนสาธารณะโคเซ็ตสึเอนแห่งเกาะฮอกไกโด หากมางานนี้ คุณจะได้พบกับดอกไม้สีแดงนานาพันธุ์ งานศิลปะเล็ก ๆ น้อย ๆ ดนตรีสด และกิจกรรมอื่น ๆ ด้วย
ฤดูนี้คึกคักเป็นพิเศษไม่แพ้ฮอกไกโดหน้าร้อนเลย เพราะจะจัดเทศกาลหิมะซัปโปโรเป็นประจำทุกปี ซึ่งจะมีนักแกะสลักหิมะมืออาชีพเข้าร่วมจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างรอคอยที่จะได้พบกับประติมากรรมแกะสลักน้ำแข็งสุดอลังการ พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขี่สโนว์โมบิล หรือการสร้างบ้านอิกลูแบบชาวเอสกิโม
เมื่อรู้แล้วว่าไปเที่ยวฮอกไกโดแต่ละเดือนมีอีเวนต์อะไรบ้าง ก็ต้องไม่ลืมทำความรู้จักกับอาหารชื่อดังประจำฤดูด้วย ! จะมีเมนูไหนที่น่ากินบ้าง ไปดูกันเลย ถ้าได้ลองแล้ว ขอบอกว่าจะดีต่อใจจนอยากไปกินอีกรอบแน่นอน !
หลายครอบครัวออกมาปิกนิกใต้ต้นซากุระ ทำให้เมนูเด็ดที่ชาวฮอกไกโดจำนวนมากรับประทาน ก็คือ “เจงกีสข่าน” พูดง่าย ๆ ก็คือคล้าย ๆ กับหมูกระทะบ้านเรา แต่จะใช้เนื้อแกะแทนเนื้อหมู รับประทานคู่กับผักเคียงท้องถิ่น และเส้นอุด้ง พร้อมเครื่องดื่มอย่างเบียร์เย็น ๆ สักแก้ว
เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน ของอร่อยขึ้นชื่อจะเป็นของหวานดับเหงื่ออย่างไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟสีม่วงดอกลาเวนเดอร์ และเมลอนซอฟต์เสิร์ฟ
ฤดูใบไม้ผลิต้องกินเจงกีสข่านชมดอกซากุระ แต่ถ้าชมดอกไม้แดงฤดูใบไม้ร่วงต้องกิน “อิชิคาริ นาเบะ” อีกหนึ่งเมนูหม้อไฟชื่อดังประจำฮอกไกโด ประกอบด้วยเส้นสาหร่ายคมบุดาชิ น้ำซุปมิโซะ ผักท้องถิ่น กระดูกปลาแซลมอน พร้อมด้วยแซลมอนหมัก
อากาศหนาวจนแม่น้ำเป็นน้ำแข็งแบบนี้ ของดีของอร่อยจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากราเม็งร้อน ๆ สักชาม ขอบอกเลยว่าที่ฮอกไกโดมีร้านราเม็งขึ้นชื่อหลายร้านมาก ทั้งยังมาพร้อมกับสูตรราเม็งแบบต่าง ๆ ออกไปในแต่ละเมือง เช่น ราเม็งซัปโปโร ราเม็งอาซาฮิคาวะ ราเม็งฮาโกดาเตะ
เป็นตั๋วเหมาแบบเที่ยว ใช้โดยสารรถไฟ JR Hokkaido ได้ทุกสาย ซึ่งจะเดินทางกี่รอบก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่จำกัดวันใช้งาน และขึ้นรถเมล์บางสายของ JR Hokkaido ได้ด้วย ทำให้ก่อนซื้อตั๋วประเภทนี้เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนต้องวางแผนซื้อตั๋วให้ดีว่าคุณจะอยู่กี่วัน เพื่อให้ใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด
ประเภทตั๋ว 3 วัน*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้ตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทาง
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องวินัยจราจรมาก แค่ปั่นจักรยานผิดกฎ ทำเอาเสียค่าปรับได้ง่าย ๆ เลย โดยมีกฎสำคัญที่ควรรู้ ดังนี้
ใครขี่จักรยานที่ฮอกไกโดช่วงกลางคืนต้องเปิดไฟตลอดเวลา หากลืมเปิดจะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมาย เพราะญี่ปุ่นช่วงหน้าหนาวมืดเร็วมาก แต่ต่อให้เป็นฮอกไกโดหน้าร้อนก็ต้องเปิดไฟจักรยานเช่นกันเพื่อความปลอดภัย
กฎข้อนี้อาจฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนไทย แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นนั้นซีเรียสมาก แม้จะเป็นแค่การขับขี่จักรยาน แต่หากผู้ขี่เมาก็อาจถูกหิ้วเข้าซังเตได้เลย ส่วนโทษคือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านเยน
ในบ้านเรา ใครใคร่อยากปั่นจักรยานบนทางเท้าก็ปั่นไป อยากขอทางก็กดกริ่ง แต่ที่ญี่ปุ่นไม่ได้เด็ดขาด ! หากคุณกดกริ่งใส่คนเดินเท้าซี้ซั้ว คนญี่ปุ่นได้มองค้อน แจ้งจับคุณได้เลย เพราะที่นี่ให้อภิสิทธิ์คนเดินเท้าเป็นพิเศษ สำหรับโทษของการกดกริ่งใส่คนเดินเท้า คือ ปรับ 20,000 เยน
ถ้าเพื่อน ๆ ตัดสินใจจะทัวร์ฮอกไกโดในหน้าร้อนด้วยการเช่ารถขับแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรรู้ คือ กฎจราจรเบื้องต้นของญี่ปุ่น เพราะถึงแม้ในไทยกับญี่ปุ่นจะขับพวงมาลัยขวาเหมือนกัน แต่บอกเลยว่าไม่ชิวอย่างที่ทุกคนคิด
ที่นี่ไม่มีกฎเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด คุณจะเลี้ยวได้ก็ต่อเมื่อสัญญาณไฟขึ้นเขียวเท่านั้น หากเลี้ยวสุ่มสี่สุ่มห้า นอกจากจะเสี่ยงติดคุกหัวโตแล้ว ยังอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ด้วย
ก่อนไปเช่ารถขับ ให้เพื่อน ๆ ทำใบขับขี่สากลให้เรียบร้อย หากไม่มี โทษปรับสูงสุด 5 แสนบาท