แม้การเดินทางโดยต่อเครื่อง (Transit Flight) อาจดูยุ่งยากสำหรับบางคน แต่ในความจริงแล้ว การเลือกเดินทางด้วยไฟลต์แบบนี้กลับมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งในเรื่องราคาที่ประหยัดกว่าไฟลต์บินตรง ไปจนถึงการได้แวะพักในสนามบินระดับโลกเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ บทความนี้จะพาไปรู้จักกับเทคนิคการต่อเครื่องอย่างมืออาชีพ พร้อมเคล็ดลับที่จะทำให้การเดินทางราบรื่น คุ้มค่า และสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Transit Flight คือ เที่ยวบินที่ผู้โดยสารต้องแวะพักเครื่องระหว่างทาง และกลับมาขึ้นเครื่องลำเดิมหรือลำใหม่ ณ สนามบินจุดแวะพัก (โดยส่วนใหญ่ใช้เลขเที่ยวบินเดิม) ก่อนจะเดินทางต่อไปยังปลายทางหลัก ซึ่งแตกต่างจากไฟลต์บินตรง (Direct Flight) ที่เดินทางจากต้นทางไปยังปลายทางโดยไม่มีการแวะเปลี่ยนเครื่อง
ตัวอย่างของ Transit Flight เช่น การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปลอนดอน โดยแวะต่อเครื่องที่ดูไบหรือโดฮา หรือการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปนิวยอร์ก โดยแวะต่อเครื่องที่โตเกียวหรือโซล
การเลือกเที่ยวบินแบบต่อเครื่องราบรื่นและไม่พลาดเที่ยวบินถัดไป ควรพิจารณาเรื่องดังนี้
ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและเปลี่ยนเกต หากต้องเปลี่ยนสายการบินหรืออาคารผู้โดยสาร ควรเพิ่มเวลาเผื่อไว้ให้เพียงพอ
สนามบินขนาดใหญ่และมีระบบจัดการดี จะช่วยลดความเครียดในการต่อเครื่อง โดยสนามบินยอดนิยมได้แก่
การจองผ่านสายการบินในกลุ่มพันธมิตร เช่น Star Alliance, OneWorld หรือ SkyTeam จะช่วยประสานการโหลดสัมภาระและช่วยอำนวยความสะดวกหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับเที่ยวบินดีเลย์
โหลดแอปพลิเคชันของสายการบินไว้ เพื่อดูข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น เกตขึ้นเครื่อง เทอร์มินัล และสถานะเที่ยวบิน
มาดูขั้นตอนการต่อเครื่องที่ควรรู้ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ดังนี้
แม้ต้องใช้เวลามากขึ้นเล็กน้อย แต่การเดินทางแบบ Transit Flight กลับมีข้อดีมากมาย เช่น
เที่ยวบินแบบต่อเครื่องมักมีราคาถูกกว่าเที่ยวบินตรง โดยเฉพาะเส้นทางยุโรปหรืออเมริกา ซึ่งอาจประหยัดได้ตั้งแต่หลายพันไปจนถึงหลายหมื่นบาท
การเลือกเที่ยวบินที่มีเวลาต่อเครื่องนาน (Long Layover) 6-24 ชั่วโมง เปิดโอกาสให้ได้ออกไปเที่ยวชมเมืองระหว่างทาง หากมีวีซ่าของประเทศนั้น ๆ ก็จะเหมือนได้เที่ยวสองประเทศในการเดินทางครั้งเดียว
สำหรับเส้นทางระยะไกล การได้แวะพักระหว่างทางช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าที่ต้องนั่งเครื่องบินเป็นเวลานาน ช่วยลดผลกระทบจาก Jet Lag และทำให้ถึงที่หมายอย่างสดชื่น
สนามบินหลักที่เป็นศูนย์กลางการบิน มักมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการระดับพรีเมียม ทั้งร้านอาหาร ร้านค้า สปา สวน หรือพื้นที่พักผ่อนต่าง ๆ ทำให้การรอต่อเครื่องกลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การท่องเที่ยว
นอกจากการเลือกเที่ยวบินและวางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบแล้ว ยังมีเทคนิคอีกหลายประการที่จะช่วยให้การต่อเครื่องเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
บัตรเครดิต Private Banking จากธนาคารกรุงศรี ที่มอบสิทธิเข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ (Lounge) ในสนามบินทั่วโลก จะทำให้การรอต่อเครื่องสะดวกสบายกว่าการนั่งรอในพื้นที่สาธารณะ ภายในห้องรับรองพิเศษมีบริการอาหารและเครื่องดื่ม อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง พื้นที่ทำงาน พื้นที่พักผ่อน และในบางสนามบินยังมีห้องอาบน้ำให้บริการอีกด้วย
แม้จะวางแผนอย่างดีแล้ว แต่การเดินทางทางอากาศอาจมีความไม่แน่นอนเสมอ เช่น เที่ยวบินล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศหรือปัญหาทางเทคนิค ดังนั้นควรเตรียมแผนสำรองไว้เสมอ
เที่ยวบินช่วงเช้ามักมีความตรงต่อเวลามากกว่าเที่ยวบินช่วงเย็นหรือกลางคืน เนื่องจากความล่าช้ามักสะสมมาตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ หากเกิดปัญหาขึ้น คุณยังมีโอกาสจัดการและหาเที่ยวบินทดแทนได้มากกว่า
แอปพลิเคชันของสายการบินจะช่วยให้สามารถติดตามสถานะเที่ยวบิน การเปลี่ยนแปลงประตูขึ้นเครื่อง (Gate) หรือเวลาขึ้น-ลงของเที่ยวบินแบบเรียลไทม์ ช่วยให้วางแผนการเดินทางภายในสนามบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเดินทางแบบต่อเครื่องอาจดูซับซ้อนในช่วงแรก แต่หากมีการวางแผนล่วงหน้าและใช้เทคนิคต่าง ๆ ที่แนะนำ ก็จะช่วยให้การเดินทางสะดวกสบาย ประหยัด และได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าจดจำ โดยเฉพาะหากถือบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์พิเศษ อย่างบัตรเครดิต กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง (Krungsri Private Banking) จากธนาคารกรุงศรี ที่ช่วยเปลี่ยนการรอเครื่องให้กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายและความพิเศษอย่างแท้จริง
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี
ข้อมูลอ้างอิง: