การอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ทุกคนต้องการความสะดวกสบายและการเดินทางที่คล่องตัว แต่สำหรับคนที่มองหาความพิเศษเหนือระดับ 'เพนต์เฮาส์' คือคำตอบที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ด้วยจุดเด่นที่อยู่บนชั้นสูงสุดของอาคาร พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ และวิวพาโนรามาสุดอลังการ ทำให้เพนต์เฮาส์เป็นที่ต้องการของผู้มองหาที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นมากกว่าคอนโดธรรมดา
1. เพนต์เฮาส์ คืออะไร?
เพนต์เฮาส์ (Penthouse) คือ ห้องในคอนโดหรูซึ่งมีความพิเศษตรงที่อยู่บนชั้นสูงที่สุดในอาคาร ทำให้ได้วิวสวยแบบไม่มีอะไรบัง พร้อมพื้นที่ส่วนตัวเยอะ และบรรยากาศที่ต่างจากคอนโดชั้นอื่น ๆ อีกทั้งเพนต์เฮาส์มักมีทางเข้าพิเศษและลิฟต์ส่วนตัวเพื่อความไพรเวทสูงสุด บางยูนิตมีสระว่ายน้ำส่วนตัวหรือสวนลอยฟ้า การตกแต่งเน้นความหรูหราและใช้วัสดุชั้นเลิศ
ในประเทศไทย เพนต์เฮาส์เริ่มฮิตมาประมาณ 20 ปีแล้ว โดยเฉพาะตามโครงการหรูใจกลางเมือง ทุกวันนี้เพนต์เฮาส์กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ เจ้าของเพนต์เฮาส์มักเป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ชอบวิวสวย และอยากได้พื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบครบครัน
2. ความแตกต่างระหว่างคอนโดทั่วไปกับคอนโดเพนต์เฮาส์
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างคอนโดทั่วไปกับเพนต์เฮาส์มีหลายด้าน
- ทำเลที่ตั้งของเพนต์เฮาส์จะอยู่ที่ชั้นบนสุดของอาคารเสมอ ขณะที่คอนโดทั่วไปอาจอยู่ชั้นไหนก็ได้ การอยู่บนจุดสูงสุดทำให้เพนต์เฮาส์มีวิวสวยแบบไร้สิ่งบดบัง ได้ความเงียบสงบ อากาศสดชื่น และไม่มีเสียงรบกวนจากชั้นบน
- ขนาดพื้นที่ใช้สอยของเพนต์เฮาส์มักกว้างกว่าคอนโดทั่วไป 2-3 เท่า บางโครงการมีเพนต์เฮาส์เพียง 1-2 ยูนิตต่อชั้น ทำให้มีพื้นที่ส่วนตัวมากพอสำหรับการจัดห้องต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ทั้งห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย หรือแม้แต่ห้องสมุดส่วนตัว
- การออกแบบพิเศษของเพนต์เฮาส์มักมีเพดานสูง 5-6 เมตร ระเบียงกว้าง หน้าต่างเต็มผนัง และพื้นที่กลางแจ้งส่วนตัว บางยูนิตมีสระว่ายน้ำหรือสวนลอยฟ้า ซึ่งต่างจากคอนโดทั่วไปที่มีเพดานสูงตามมาตรฐานและระเบียงขนาดจำกัด
- ราคาและมูลค่าการลงทุนของเพนต์เฮาส์สูงกว่าคอนโดทั่วไป 3-5 เท่าต่อตารางเมตร แต่ก็มีแนวโน้มรักษามูลค่าและเพิ่มขึ้นได้ดีกว่า เนื่องจากความหายากและกลุ่มเป้าหมายที่จำกัด ทำให้เป็นการลงทุนระยะยาวที่น่าสนใจ
- ความเป็นส่วนตัวและระบบรักษาความปลอดภัยของเพนต์เฮาส์มีมาตรฐานสูงกว่า ด้วยประตูและลิฟต์ส่วนตัว ระบบ Key Card พิเศษ และบางโครงการมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฉพาะชั้น ทำให้เจ้าของมั่นใจในความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอย่างสูงสุด
3. ประเภทของเพนต์เฮาส์ที่พบในประเทศไทย
เพนต์เฮาส์ในประเทศไทยมีหลายรูปแบบให้เลือกตามไลฟ์สไตล์และความต้องการ
- Rooftop Penthouse (เพนต์เฮาส์พร้อมพื้นที่ดาดฟ้า)
Rooftop Penthouse เป็นประเภทยอดนิยม มีพื้นที่ดาดฟ้าส่วนตัวขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับจัดปาร์ตี้ BBQ หรือสร้างสวนลอยฟ้า บางยูนิตมีสระว่ายน้ำส่วนตัวหรือจากุซซี่บนดาดฟ้า ให้ชีวิตแบบ Indoor-Outdoor ที่ลงตัว พร้อมวิว 360 องศาที่ไม่มีใครเหมือน
- Duplex Penthouse (เพนต์เฮาส์แบบสองชั้น)
Duplex Penthouse คือเพนต์เฮาส์สองชั้นที่มีบันไดภายในเชื่อมกัน ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเดี่ยวมากกว่าคอนโด การแบ่งโซนชัดเจน ชั้นล่างเป็นพื้นที่รับแขก ชั้นบนเป็นส่วนนอน ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวและการใช้ชีวิตแบบมีระดับ
- Luxury Penthouse (เพนต์เฮาส์หรู)
Luxury Penthouse เน้นความหรูหราสุดขีด ตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียม มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลต์อินครบชุด มีห้องพิเศษหลากหลาย ตั้งแต่ห้องเก็บไวน์ ห้องสมุด ห้องเล่นเกม ไปจนถึงโฮมเธียเตอร์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด
- Sky Penthouse (เพนต์เฮาส์ส์วิวท้องฟ้า)
Sky Penthouse เน้นวิวท้องฟ้าเป็นจุดขาย มีหน้าต่างกระจกสูงเต็มผนัง Skylights ขนาดใหญ่ ทำให้รู้สึกโล่งสบาย ได้แสงธรรมชาติตลอดวัน และชมดาวได้ในยามค่ำคืน เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศโปร่งโล่งและใกล้ชิดธรรมชาติ
4. ข้อดีของการอยู่คอนโดเพนต์เฮาส์
การอยู่เพนต์เฮาส์มีข้อดีมากมายที่ทำให้คุ้มค่ากับการลงทุน
- วิวทิวทัศน์แบบพาโนรามา ที่ไร้สิ่งบดบัง เป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ ตื่นมากับพระอาทิตย์ขึ้น ชมแสงไฟยามค่ำคืน หรือมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาทอดยาวไกลสุดสายตา ความสวยงามเหล่านี้ช่วยผ่อนคลายความเครียดและสร้างแรงบันดาลใจในชีวิตประจำวัน
- ความเป็นส่วนตัวสูงกว่าคอนโดทั่วไปมาก เมื่อมีเพื่อนบ้านน้อย หรือบางยูนิตมีเพียงหนึ่งเดียวต่อชั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวน อยากทำกิจกรรมอะไรในบ้านก็ทำได้อย่างเต็มที่ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
- สถานะทางสังคมและภาพลักษณ์ที่มาพร้อมกับการอยู่เพนต์เฮาส์ ช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือทั้งในวงธุรกิจและสังคม เป็นที่พักที่น่าประทับใจสำหรับการต้อนรับแขกระดับ VIP หรือคู่ค้าสำคัญ
- การลงทุนที่มีแนวโน้มเพิ่มมูลค่าในระยะยาว เพนต์เฮาส์มีจำนวนจำกัด ทำให้หายาก ผู้ซื้อจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมาก ทำให้ราคาไม่ตกง่ายและมักปรับมูลค่าขึ้นได้ดีกว่าคอนโดทั่วไป
- พื้นที่ส่วนกลางเฉพาะและสิทธิพิเศษต่าง ๆ หลายโครงการมี Exclusive Lounge, Private Gym หรือ Sky Lobby สำหรับผู้อยู่อาศัยเพนต์เฮาส์โดยเฉพาะ พร้อมบริการ Concierge แบบ VIP ทำให้ได้รับการดูแลที่ดีกว่ามาตรฐาน
5. ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อคอนโดเพนต์เฮาส์
การตัดสินใจซื้อเพนต์เฮาส์ต้องพิจารณาหลายปัจจัยให้รอบคอบ เช่น
- งบประมาณและค่าบำรุงรักษาเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากราคาซื้อที่สูง ค่าส่วนกลางของเพนต์เฮาส์ก็สูงตามไปด้วย อาจแพงกว่าคอนโดทั่วไป 2-3 เท่า รวมถึงค่าภาษี ค่าประกัน และค่าดูแลพื้นที่พิเศษอย่างสระว่ายน้ำส่วนตัว ต้องเตรียมงบล่วงหน้าให้พร้อม
- ทำเลที่ตั้งและการเดินทางควรสะดวก เพราะแม้จะเป็นเพนต์เฮาส์ที่หรูหราแค่ไหน แต่หากอยู่ไกลหรือการเดินทางไม่สะดวก ก็อาจไม่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน จึงควรเลือกโครงการที่ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ที่ทำงาน หรือย่านที่มีศักยภาพพัฒนาในอนาคต
- คุณภาพโครงการและชื่อเสียงผู้พัฒนาเป็นหลักประกันที่ดี เลือกผู้พัฒนาที่มีประสบการณ์สร้างโครงการระดับไฮเอนด์ มีการรับประกันคุณภาพ และการบริหารจัดการหลังโอนที่เป็นระบบ
- ระบบบริหารจัดการและสิ่งอำนวยความสะดวกต้องครบครัน ตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง แผนการบำรุงรักษาระยะยาว และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างฟิตเนส สปา คลับเฮาส์ ที่ต้องอยู่ในสภาพดีตลอด
6. ไอเดียการตกแต่งคอนโดเพนต์เฮาส์ที่น่าสนใจ
- สไตล์ Luxury Modern เน้นความหรูหราแบบร่วมสมัย ใช้โทนสีกลางอย่างขาว เทา ดำ ผสมกับวัสดุพรีเมียมอย่างหินอ่อน ไม้แท้ กระจกนิรภัย เลือกเฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก หรือเฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์แฟชั่นหรู ใช้เส้นสายเรียบง่าย พร้อมระบบแสงที่หลากหลายเพื่อสร้างบรรยากาศ
- การจัดสวนบนระเบียงหรือดาดฟ้าเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เลือกต้นไม้ที่ทนลมแรง อย่างปาล์มพัด ไผ่ญี่ปุ่น หรือใช้หญ้าเทียมคุณภาพดี จัดมุมนั่งเล่นกลางแจ้งกับเฟอร์นิเจอร์กันน้ำ หรือทำสวนแนวตั้งเพื่อประหยัดพื้นที่
- เทคโนโลยีสมาร์ตโฮมเพิ่มความสะดวก ติดตั้งระบบควบคุมแสง เสียง อุณหภูมิผ่านมือถือ ม่านเปิด-ปิดอัตโนมัติ กล้องวงจรปิดดูผ่านแอป หรือระบบ Home Automation ที่ตั้งโปรแกรมตามไลฟ์สไตล์ ทำให้การใช้ชีวิตสะดวกและทันสมัย
หากคุณกำลังวางแผนซื้อหรือตกแต่งคอนโดเพนต์เฮาส์ การเลือกใช้บัตรเครดิตที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะบัตรเครดิต โฮมโปร วีซ่า แพลทินัม (HomePro Visa Platinum) ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับการตกแต่งบ้าน
- ซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ HomePro รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน
- รับเครดิตเงินคืนและสิทธิพิเศษเมื่อซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัย
- สะสมคะแนนรีวอร์ดเพื่อแลกรับของรางวัลมากมาย
สมัครบัตรเครดิต HomePro Visa Platinum วันนี้ เพื่อเริ่มต้นชีวิตในเพนต์เฮาส์สุดหรูของคุณได้อย่างคุ้มค่า!
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี
ข้อมูลอ้างอิง:
