พูดคุยกับเราได้ที่

0 2646 3555

8 โรคพนักงานออฟฟิศที่เกิดขึ้นจากการทำงานที่ต้องเฝ้าระวัง

8 โรคจากการทำงานที่พนักงานออฟฟิศเป็นบ่อยมีอะไรบ้าง ?  
4 โรคยอดฮิต ที่มนุษย์ออฟฟิศต้องระวัง

มนุษย์ออฟฟิศหลายคนอยู่ในช่วงวัยที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ทำงานหนักอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลงานออกมาดี อยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ยิ่งช่วงนี้ที่ Work From Home ด้วยแล้ว เส้นแบ่งเวลางานกับเวลาส่วนตัวแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ งานเยอะจนบางคนต้องทำงานเกินเวลากันอยู่บ่อย ๆ มีเวลาพักผ่อนน้อย ประชุมกันทั้งวันจนกินอาหารไม่ตรงเวลา แถมยังต้องนั่งแช่นาน ๆ ไม่มีเวลาออกกำลังกายอีก สิ่งเหล่านี้เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคที่เกิดจากการทำงานได้ง่าย ๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลย ซึ่งโรคจากการทำงานมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

4 โรคยอดฮิต ที่มนุษย์ออฟฟิศต้องระวัง
 

8 โรคพนักงานออฟฟิศที่พบบ่อย

1. โรคนิ้วล็อก ใช้คอมฯ นาน ๆ ยิ่งเสี่ยงสูง

โรคนิ้วล็อกถือได้ว่าเป็นโรคยอดฮิตสำหรับมนุษย์ออฟฟิศเลยทีเดียว เพราะในแต่ละวันต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ทำให้ต้องเกร็งนิ้วอยู่ในท่าเดิมซ้ำ ๆ โดยจะมีอาการปวดที่โคนนิ้วมือ รู้สึกเจ็บเวลาโดนกด สะดุดเวลาเหยียดนิ้ว จนไปถึงนิ้วไม่สามารถเหยียดหรืองอได้ปกติเหมือนนิ้วโดนล็อกเอาไว้

การรักษาและการป้องกันโรคนิ้วล็อก

  • พักนิ้วยืดกล้ามเนื้อมือเป็นระยะ โดยใช้วิธีการยืดนิ้วและข้อมือ
  • จับเมาส์และคีย์บอร์ดให้ถูกวิธี
  • ลดกิจกรรมการใช้นิ้วมือจนกว่าจะดีขึ้น
  • แช่มือในน้ำอุ่นพร้อมขยับมือในน้ำก็จะช่วยลดอาการฝืดได้

หากยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมต่อไป



4 โรคยอดฮิต ที่มนุษย์ออฟฟิศต้องระวัง
 

2. โรคเครียดลงกระเพาะ ความทรมานจากอาหารไม่ย่อย

โรคพนักงานออฟฟิศยอดฮิตคงจะหนีไม่พ้น “โรคเครียดลงกระเพาะ” เนื่องจากความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับมนุษย์ออฟฟิศทุกคน แต่ถ้าเป็นบ่อย ๆ ปล่อยให้ก่อตัวเป็นความเครียดสะสม ก็อาจส่งผลต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ โดยเฉพาะในระบบย่อยอาหาร ซึ่งถ้าหากความเครียดลงกระเพาะแล้วล่ะก็ ระบบย่อยอาหารจะทำงานได้ไม่เต็มที่ มีอาการอาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ แสบร้อนกลางอก ท้องเสีย ท้องผูก ปวด จุก แน่น เรอบ่อย ขับถ่ายออกมาเป็นเลือดหรือมีสีดำ และอาจทำให้โรคในระบบย่อยอาหารที่เป็นอยู่แล้วแย่ลงกว่าเดิมอีก

วิธีรับมือกับโรคเครียดลงกระเพาะ:

การรู้จักวิธีรับมือและวิธีจัดการความเครียด เป็นสิ่งง่าย ๆ ที่จะช่วยให้อาการนี้ดีขึ้น ถ้ารู้สึกว่าตัวเองเครียดเกินไป อาจจะลองใช้วิธีดังต่อไปนี้

  • พักจากงาน ไปทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
  • พูดคุยกับคนรอบข้างเพื่อระบายความเครียดให้สบายใจขึ้น

หากยังไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้ด้วยตนเอง การปรึกษาแพทย์ก็เป็นทางออกที่ดีเลยนะ




4 โรคยอดฮิต ที่มนุษย์ออฟฟิศต้องระวัง
 

3. โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ติดเชื้อได้ง่าย

เข้าใจเลยนะ ว่าเวลาที่เรากำลังทำงานได้แบบลื่นไหล ไอเดียเจ๋ง ๆ พุ่งกระฉูด ก็ไม่อยากจะให้อะไรเข้ามาขัดจังหวะ แม้กระทั่งการลุกไปเข้าห้องน้ำ หลายคนจึงเลือกที่จะอั้นเอาไว้ก่อน ซึ่งถ้าหากทำแบบนี้เป็นประจำแล้วล่ะก็ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคพนักงานออฟฟิศยอดฮิตถามหาแน่นอน
เพราะการกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานจะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโต หรือบางคนรีบเข้าห้องน้ำรีบออกมา ไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ถูกวิธี ก็จะทำให้มีโอกาสติดเชื้อจากช่องคลอดและทวารหนักได้เช่นกัน โดยอาการของโรคนี้ก็จะมีตั้งแต่ การปัสสาวะบ่อยแต่ครั้งละน้อย ๆ กะปริบกะปรอย ปัสสาวะแสบขัด และอาจมีปัสสาวะปนเลือด

ป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

  • ไม่ควรอั้นปัสสาวะเด็ดขาด
  • ดูแลรักษาความสะอาดให้ถูกวิธี ด้วยการเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อลดโอกาสติดเชื้อ
  • ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะการปัสสาวะนี่แหละจะช่วยขับเชื้อโรคให้สุขภาพร่างกายเราดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากใครเป็นโรคนี้ ควรพบแพทย์เพื่อรับรักษาโดยการรับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อจะดีที่สุด




4 โรคยอดฮิต ที่มนุษย์ออฟฟิศต้องระวัง
 

4. ออฟฟิศซินโดรม

โรคของพนักงานออฟฟิศที่เป็นกันเยอะมาก ๆ และเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานานและต่อเนื่อง หรืออาจเกิดจากการนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งหลังค่อม ก้มคอมากเกินไป ห่อไหล่ โต๊ะเก้าอี้ทำงานสูงหรือต่ำเกินไปจนไม่พอดีกับร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยหรือชาที่หลัง แขน ขา ข้อมือ คอ บ่า ไหล่

การป้องกันและรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม

  • ปรับการนั่งให้ถูกท่าตามหลัก Ergonomic และจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ้าง

หากใครรู้สึกปวดมาก ๆ ก็อย่าปล่อยไว้เรื้อรัง ลองปรึกษาแพทย์เพื่อทำกายภาพบำบัด ฝังเข็ม หรือรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ จะช่วยบรรเทาอาการได้ ร่วมกับการออกกำลังกายและปรับตำแหน่งท่านั่งให้ถูกต้องอยู่เสมอ

 

5. โรคกรดไหลย้อน

โรคกรดไหลย้อน (GERD) เป็นอีกหนึ่งโรคที่เกิดจากการทำงานที่พบได้บ่อย สาเหตุเกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหาร ซึ่งจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก หรือที่เรียกว่า “Heartburn” นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง หรือเจ็บคอ ซึ่งมักจะเกิดจากการนั่งทำงานท่าเดิมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะหากมีการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา หรือกินอาหารมื้อใหญ่แล้วทำงานต่อทันที

การป้องกันและรักษาโรคกรดไหลย้อน

  • ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น ไม่รับประทานอาหารมื้อใหญ่ในช่วงใกล้เวลานอน
  • หลีกเลี่ยงการนั่งหรือการนอนหลังรับประทานอาหารทันที

หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ยาลดกรด ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ
 

6. อาการตาแห้ง ตาล้า

โรคตาแห้งและตาล้า คือ โรคพนักงานออฟฟิศที่เกิดจากการใช้สายตานาน ๆ โดยเฉพาะการจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือนานเกินวันละ 8-10 ชั่วโมง ทำให้เกิดอาการปวดตา ตาแห้ง เคืองตา บางครั้งอาจมีอาการตาพร่ามัว หรือปวดหัวร่วมด้วย

การป้องกันและรักษาตาแห้ง ตาล้า

  • ใช้กฎ 20-20-20 คือทุก ๆ 20 นาที ให้มองห่างจากจอประมาณ 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) นาน 20 วินาที
  • ปรับแสงสว่างให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
  • ใช้น้ำตาเทียมหรือเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ หากมีอาการตาแห้ง

หากมีอาการตาแห้ง ตาล้า มองภาพพร่ามัวและปวหัวอย่างต่อเนื่อง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ให้แน่ใจว่าไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ และรับการรักษาอย่างเหมาะสม

 

7. โรคความดันโลหิตสูง

หลายคนอาจจะคิดว่าโรคความดันโลหิตสูงเกิดจากการรับประทานอาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมเพียงอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้ว ก็เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานเช่นเดียวกัน โดยมักจะเกิดจากการทำงานหนักและมีความกดดันสูง ทำให้เกิดความเครียดได้ ความเครียดเหล่านี้ส่งผลให้หลอดเลือดและหัวใจทำงานหนักขึ้น จนอาจทำให้ความดันโลหิตสูงเกินไป

การป้องกันและรักษาความดันโลหิตสูง

  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ลดการบริโภคอาหารเค็มหรืออาหารที่มีไขมันสูง

หากมีความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและใช้ยาลดความดันตามคำแนะนำของแพทย์

 

8. โรคซึมเศร้าและความเครียด

พนักงานออฟฟิศหลายคนเครียดและทนแรงกดดันไม่ไหว ทำให้เป็นโรคเครียดและโรคซึมเศร้ากันจำนวนมาก ดังนั้น ให้ลองสำรวจตัวเองว่ามีความเครียดสะสมอยู่หรือไม่ มีปัญหาอะไรที่หนักเกินกว่าจะรับมือไหวหรือไม่ เพื่อที่จะป้องกันและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ

การป้องกันและรักษาโรคซึมเศร้าและความเครียด

  • หมั่นพูดคุยและระบายความเครียดกับเพื่อนร่วมงานหรือคนใกล้ชิด
  • จัดสรรเวลาให้ดีระหว่างการทำงานและการพักผ่อน

หากมีอาการซึมเศร้าหรือเครียดอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อหาวิธีการรักษาและฟื้นฟู

 

วิธีป้องกันโรคที่เกิดจากการทำงาน

สำหรับผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังหรือป่วยบ่อย ๆ อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังมีความเครียดสะสมหรือทำงานผิดท่ามานานเกินไป โดยในเบื้องต้น แนะนำให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้

  • ปรับท่าทางให้เหมาะสมกับการทำงาน เพื่อป้องกันอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม
  • ยืดเหยียดกล้ามเนื้ออยู่เสมอ เป็นการผ่อนคลายทั้งกล้ามเนื้อและความเครียดในการทำงาน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เน้นการยืดเหยียด และการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
  • พักจากความเครียด สร้างสมดุลในการทำงาน เพื่อลดความกดดัน
  • ดูแลสุขภาพและปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างสมดุล รวมถึงการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

มนุษย์ออฟฟิศใช้ร่างกายทำงานหนักเพื่อหาเงินทุกวัน แต่ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าปล่อยให้สุขภาพร่างกายแย่โดยไม่รู้ตัวนะ เพราะไม่อย่างนั้นแทนที่จะนำเงินที่หามาได้ไปใช้จ่ายตามแพลนที่วางไว้ อาจจะต้องนำมาจ่ายค่ารักษาก้อนโต

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่ดีเยี่ยม และไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องค่ารักษา ขอแนะนำให้ทำประกันสุขภาพเพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย และเพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้น หากคุณทำประกันกับ AIA และอย่างไรก็ตาม เพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่ดีเยี่ยม และไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องค่ารักษา ขอแนะนำให้ทำประกันสุขภาพเพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย และเพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้น หากคุณทำประกันกับ AIA และชำระเบี้ยฯ AIA ผ่านบัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า แพลทินัม (AIA Visa Platinum) จากธนาคารกรุงศรี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 2,000 บาท* (0.5%) เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันภัยของเอไอเอ ทั้งเบี้ยประกันปีแรก และเบี้ยต่ออายุ และสามารถแบ่งจ่าย 0% นาน 6 เดือนสำหรับในปีแรก นอกจากนี้ยังมี โปรโมชันสุขภาพและความงามสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต กรุงศรี อีกเพียบ ห้ามพลาดทุกความคุ้มค่า ใครยังไม่มีสมัครเลย



*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี

ข้อมูลอ้างอิง
  1. โรคนิ้วล็อค (Trigger finger). สืบค้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.mccormickhospital.com/web/articles/blogs/โรคนิ้วล็อค (Trigger finger) 
  2. รักษานิ้วล็อค (Trigger Finger). สืบค้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.ekachaihospital.com/th/trigger-finger/ 
  3. “เครียดลงกระเพาะ” โรคยอดฮิตคนวัยทำงาน – คนคิดมาก. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.sikarin.com/health/เครียดลงกระเพาะ-โรคยอด
  4. “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” โรคไม่ลับ ที่สาวๆ ต้องรู้. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.chularat3inter.com/th/contents/causes-of-cystitis
  5. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.bumrungrad.com/th/conditions/cystitis-uti-urinary-tract-infection