Tax Refund คืออะไร อยากขอเงินช้อปปิ้งคืนต้องทำยังไงบ้าง ?

การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมักมาพร้อมกับการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งด้านวัฒนธรรม อาหาร และแน่นอนว่า "การช้อปปิ้ง" ซึ่งเป็นหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คน ที่น่าสนใจก็คือ ในหลาย ๆ ประเทศจะมีนโยบายคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax หรือ VAT) ที่รวมอยู่ในราคาสินค้านั้น ๆ กลับมาให้ด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นโอกาสทองที่คุณจะช้อปปิ้งทุกอย่างได้สนุก ภายใต้งบที่ประหยัดมากกว่าเดิม

Tax Refund คืออะไร ?

Tax Refund หรือการคืนภาษี คือการที่นักท่องเที่ยวสามารถขอเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีสินค้าและบริการ (GST) คืนได้ หลังจากที่ซื้อสินค้าในต่างประเทศ ซึ่งนี่เป็นสิทธิพิเศษที่หลายประเทศมอบให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ

ทำไมถึงต้องคืนภาษีให้นักท่องเที่ยว ?

• ส่งเสริมการท่องเที่ยว : เมื่อนักท่องเที่ยวรู้ว่าจะได้เงินภาษีคืน ก็จะรู้สึกอยากมาเที่ยวและช้อปปิ้งในประเทศนั้น ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่มีชื่อเสียงด้านแฟชั่นหรือสินค้าแบรนด์เนม เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี หรือสิงคโปร์
• กระตุ้นเศรษฐกิจ : เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้ามากขึ้น ร้านค้าและธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างงานในภาคการค้าปลีกและการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ
• สร้างความพึงพอใจ : เมื่อนักท่องเที่ยวได้รับเงินคืน จะรู้สึกว่าการช้อปปิ้งคุ้มค่าและมีความประทับใจ นำไปสู่การบอกต่อและการกลับมาเที่ยวซ้ำ ซึ่งสร้างรายได้ระยะยาวให้แก่ประเทศปลายทาง

ใครมีสิทธิขอคืนภาษี ?

โดยทั่วไป นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไม่ได้มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศนั้น ๆ มีสิทธิขอคืนภาษีได้ ซึ่งแต่ละประเทศอาจมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่น บางประเทศอาจกำหนดให้คุณต้องอยู่ในประเทศไม่เกิน 3 เดือน หรือต้องนำสินค้าออกนอกประเทศภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของแต่ละประเทศก่อนเดินทาง

สินค้าประเภทไหนบ้างที่ขอคืนภาษีได้ ?

สินค้าที่ขอคืนภาษีได้

• เสื้อผ้าและรองเท้า
• กระเป๋าและเครื่องหนัง
• เครื่องสำอางและน้ำหอม
• เครื่องประดับและนาฬิกา
• อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
• ของที่ระลึกและงานศิลปะ

สินค้าที่มักขอคืนภาษีไม่ได้

• อาหารและเครื่องดื่ม
• บุหรี่และแอลกอฮอล์
• บริการต่าง ๆ เช่น ค่าโรงแรม ค่าอาหาร
• สินค้าที่ใช้แล้วหรือบริโภคแล้วในประเทศนั้น

Tax Refund ทํายังไง ? แนะนำขั้นตอนการขอคืนภาษีเมื่อเที่ยวต่างประเทศ

1. ตรวจสอบเงื่อนไขล่วงหน้า

ก่อนออกเดินทาง ควรศึกษาข้อมูลการขอคืนภาษีของประเทศที่คุณจะไปเที่ยวให้ดีก่อน เนื่องจากแต่ละประเทศมีกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะเรื่องยอดซื้อขั้นต่ำ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบด้วยว่ามีข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาที่ต้องนำสินค้าออกนอกประเทศหรือไม่ เพื่อให้คุณสามารถวางแผนช้อปปิ้งได้คุ้มค่ามากขึ้น

2. ซื้อสินค้าจากร้านที่เข้าร่วมโครงการ

ไม่ใช่ทุกร้านค้าที่มีบริการขอคืนภาษี ดังนั้นควรสังเกตป้าย "Tax Free Shopping" หรือ "VAT Refund" ที่หน้าร้านก่อนตัดสินใจซื้อ โดยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเข้าร่วมโครงการนี้ และบางแห่งอาจมีเคาน์เตอร์คืนภาษีภายในร้าน ซึ่งทำให้คุณสามารถจัดการเอกสารได้สะดวกในคราวเดียว

3. ขอเอกสาร Tax Refund จากร้านค้า

หลังชำระเงินเสร็จแล้ว ให้แจ้งพนักงานว่าคุณต้องการขอคืนภาษี พร้อมแสดงพาสปอร์ต พนักงานจะมอบใบเสร็จพิเศษและแบบฟอร์มสำหรับขอคืนภาษีให้ เมื่อได้รับเอกสารแล้ว ควรตรวจดูว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง โดยเฉพาะชื่อและหมายเลขพาสปอร์ต เพราะหากมีข้อผิดพลาด อาจทำให้ไม่สามารถขอคืนภาษีได้ในภายหลัง

4. เตรียมสินค้าและเอกสารสำหรับตรวจสอบ

เก็บสินค้าที่ซื้อไว้ในที่ที่หยิบง่าย และหลีกเลี่ยงการเปิดใช้หรือแกะบรรจุภัณฑ์ก่อนผ่านด่านศุลกากร เพราะเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตรวจสอบว่าสินค้ายังอยู่ในสภาพใหม่และจะถูกนำออกนอกประเทศจริง หากคุณซื้อสินค้าหลายชิ้นจากหลายร้าน ควรจัดเรียงเอกสารให้เป็นระเบียบตามลำดับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้รวดเร็วและราบรื่น

5. ยื่นเอกสารที่จุด Tax Refund

เมื่อถึงสนามบิน ให้ไปที่เคาน์เตอร์ศุลกากรหรือจุด "Customs" ก่อนที่จะเช็กอินกระเป๋าเดินทาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินค้าและประทับตรารับรองในเอกสาร จากนั้นจึงนำเอกสารที่ผ่านการประทับตราแล้วไปที่จุดคืนภาษี ซึ่งมักตั้งอยู่ในโซนปลอดภาษีหลังผ่านด่านตรวจหนังสือเดินทาง

6. เลือกวิธีรับเงินคืนที่สะดวก

คุณสามารถเลือกรับเงินคืนได้หลายรูปแบบ ทั้งเงินสด โอนเข้าบัตรเครดิต หรือเช็ค ทั้งนี้แนะนำให้เลือกวิธีที่เหมาะกับความต้องการ โดยคำนึงถึงค่าธรรมเนียม อัตราแลกเปลี่ยน และความสะดวก

ข้อควรระวังในการขอคืนภาษี

• เผื่อเวลาให้เพียงพอ : การขอคืนภาษีที่สนามบินมักใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น เทศกาลวันหยุด หรือฤดูท่องเที่ยว ดังนั้น แนะนำให้ไปถึงสนามบินก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาเพียงพอสำหรับทุกขั้นตอน
• เก็บเอกสารให้ดี : เก็บใบเสร็จและแบบฟอร์มขอคืนภาษีไว้ในที่ปลอดภัย เพราะถ้าหายจะไม่สามารถขอคืนภาษีได้
• ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยน : หากเลือกรับเงินคืนเป็นเงินสด ให้สังเกตอัตราแลกเปลี่ยนว่าคุ้มค่าหรือไม่ เพราะบางครั้งการรับเงินคืนผ่านบัตรเครดิตอาจได้อัตราที่ดีกว่า
• อย่าเก็บของในกระเป๋าใบใหญ่ : สินค้าที่ต้องการขอคืนภาษีควรเก็บไว้ในกระเป๋าถือ เพราะถ้าเก็บในกระเป๋าเดินทางที่โหลดไปแล้ว จะไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้
• ตรวจสอบสิทธิ์ก่อนเดินทาง : ควรตรวจสอบข้อกำหนดเฉพาะของแต่ละประเทศ เพราะบางประเทศอาจมีข้อจำกัดพิเศษ เช่น บางประเทศในยุโรปอนุญาตให้ขอคืนภาษีได้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาจากสหภาพยุโรปเท่านั้น เนื่องจากถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจเดียวกัน

การขอคืนภาษีตอนช้อปปิ้งในต่างประเทศช่วยให้ทริปของคุณคุ้มค่ามากขึ้น แต่ความคุ้มค่าไม่ได้จบแค่นั้น เพราะเมื่อกลับมาเมืองไทย คุณก็ยังสามารถช้อปอย่างสมาร์ตต่อได้ด้วยบัตรเครดิตสำหรับผู้หญิงที่มอบเงินคืนสุดพิเศษ โดนใจสาวนักช้อปโดยเฉพาะอีกด้วย

บัตรเครดิต กรุงศรี เลดี้ ไทเทเนี่ยม คือตัวช่วยให้สาว ๆ ช้อปได้คุ้มสุด ๆ หลังกลับจากทริปเที่ยวต่างประเทศ ด้วยเครดิตเงินคืนสูงถึง 7% จากแบรนด์ที่สาว ๆ ชื่นชอบมากมาย นอกจากนี้ สิทธิพิเศษ LADY'S LIGHT PAY ยังช่วยแบ่งชำระ 0% นานถึง 4 เดือน สำหรับหมวดแฟชั่น แบรนด์เนม เครื่องสำอาง คลินิกเสริมความงาม และสปา ให้คุณช้อปวันนี้ แล้วค่อยทยอยจ่ายทีหลังได้สบาย ๆ ทั้งหมดนี้คือสิทธิพิเศษสุดคุ้มที่บัตรเครดิต กรุงศรี เลดี้ ไทเทเนี่ยม มอบให้กับสาวนักช้อปตัวจริงโดยเฉพาะ