เคยสังเกตไหมว่า วันไหนโต๊ะทำงานสะอาด งานมักจะไหลลื่น สมองโปร่ง โล่ง และคิดงานออกง่ายกว่าปกติ ? นั่นเป็นเพราะการจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ ไม่เพียงแค่เรื่องของความสวยงาม แต่ส่งผลโดยตรงต่อสมาธิ ประสิทธิภาพ และพลังงานโดยรวมที่เรามีในแต่ละวัน เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เรามาจัดโต๊ะทำงานให้ปัง เพื่อเพิ่มพลังในการทำงานกันดีกว่า
ในศาสตร์ฮวงจุ้ย เชื่อกันว่า “พลังงานที่ดี เริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมที่ดี” เพราะพื้นที่ที่เราใช้ชีวิตอยู่ทุกวัน ล้วนส่งผลต่อจิตใจ ความคิด และการตัดสินใจของเราโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะพื้นที่ทำงาน ซึ่งเป็นจุดที่เรานั่งอยู่เป็นประจำ และใช้เวลาเกือบครึ่งหนึ่งของวันในการคิด สร้างสรรค์ และตัดสินใจเรื่องสำคัญ ดังนั้น โต๊ะทำงานจึงไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับวางคอมพิวเตอร์หรือเอกสาร แต่เป็น “จุดศูนย์รวมพลังงาน” ที่สามารถเสริมทั้งสมาธิ โอกาส และการเงิน หากจัดวางอย่างถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย การจัดโต๊ะทำงานควรพิจารณา 3 เรื่องสำคัญ คือ
โต๊ะทำงานควรหันหน้าโต๊ะไปในทิศที่สามารถเปิดรับพลังงาน เช่น หันหน้าไปทางประตู หรือหน้าต่าง เพื่อรับแสงธรรมชาติ และช่วยให้เราเห็นการเคลื่อนไหวรอบตัวได้ชัดเจน โดยไม่ควรหันหลังให้ประตู เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งที่ทำให้เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งอาจส่งผลให้รู้สึกไม่มั่นคง ไม่สบายใจโดยไม่รู้ตัว
ด้านหลังของโต๊ะทำงานควรเป็นผนังทึบ หรือมีพนักเก้าอี้ที่สูงเพียงพอสำหรับรองรับหลัง เพื่อสร้างความมั่นคง ให้ความรู้สึกคล้ายกับมีภูเขาหนุนหลัง ช่วยเสริมความมั่นใจในการทำงานและการตัดสินใจ ส่วนด้านหน้าควรเปิดโล่ง ไม่ควรมีสิ่งกีดขวาง เช่น ตู้ หรือต้นไม้ใหญ่ที่บดบังสายตา
สิ่งที่วางบนโต๊ะทำงาน ควรได้รับการจัดวางอย่างมีจุดประสงค์ ไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม แต่ควรเลือกให้เสริมพลังในด้านที่ต้องการ เช่น วางต้นไม้เพื่อเพิ่มความสดชื่น วางโคมไฟทางขวาเพื่อกระตุ้นโชคลาภ หรือใช้ที่ใส่ปากกาสีทองเพื่อเสริมเรื่องการเงิน
เพราะตำแหน่งที่เรานั่งส่งผลต่อความรู้สึกโดยตรง หากโต๊ะหันหน้าเข้าหากำแพงหรือหันหลังให้ประตู อาจทำให้รู้สึกอึดอัดหรือไม่ปลอดภัย ในขณะที่การหันหน้าโต๊ะไปทางประตูหรือหน้าต่าง จะช่วยเปิดรับพลังงานดี ๆ พร้อมเสริมความมั่นใจ และยังช่วยให้เรามองเห็นโอกาสใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ตำแหน่งกลางโต๊ะ ถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงาน ถ้าเต็มไปด้วยเอกสารหรือของใช้จุกจิกที่วางไว้อย่างไม่เป็นระเบียบ จะส่งผลให้พลังงานติดขัด และทำให้รู้สึกไม่อยากเริ่มงาน ดังนั้น การปล่อยพื้นที่กลางโต๊ะให้โล่ง วางเพียงคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์การทำงานที่จำเป็น จึงเป็นการเปิดทางให้ไอเดียใหม่ ๆ ไหลเข้ามาได้อย่างอิสระ พร้อมช่วยให้สมองรู้สึกโปร่ง โล่ง และคิดงานได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น
ตามศาสตร์ฮวงจุ้ย ด้านขวาของโต๊ะทำงานเปรียบเสมือน “มังกรเขียว” ซึ่งเป็นพลังแห่งการเติบโต จึงควรวางของที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เช่น โคมไฟ ต้นไม้เล็ก ๆ หรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้รู้สึกกระฉับกระเฉง และพร้อมรับข่าวดีอยู่เสมอ
หลักฮวงจุ้ยโต๊ะทำงานเชื่อกันว่า สีทองและสีเงินเชื่อมโยงกับพลังแห่งโชคลาภ การเงิน และความมั่งคั่ง การเลือกใช้กล่องใส่ของ ที่ใส่ปากกา หรือแม้แต่แก้วน้ำในโทนสีเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นพลังทรัพย์ให้ไหลเวียนได้ดี และยังทำให้โต๊ะดูเรียบหรูน่านั่งอีกด้วย
โต๊ะทำงานที่ดีควรเป็นพื้นที่ของพลังงานใหม่ ไม่ใช่ที่เก็บของเก่า การปล่อยให้มีของที่พัง ชำรุด หรือไม่ได้ใช้งานอยู่บนโต๊ะ เปรียบเหมือนการสะสมพลังลบ ที่อาจทำให้คุณรู้สึกหน่วง คิดงานไม่ออก และขาดแรงบันดาลใจโดยไม่รู้ตัว จึงแนะนำให้เคลียร์โต๊ะทุกสัปดาห์ เพื่อจัดให้บนโต๊ะมีเฉพาะของที่ใช้งานจริงเท่านั้น
สำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย และต้องการพื้นที่ทำงานที่ไม่รบกวนสายตา การจัดโต๊ะทำงานสไตล์มินิมอลคือคำตอบ
สำหรับคนเชื่อเรื่องพลังงานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โต๊ะแบบสายมูคือพื้นที่ที่ให้ทั้งแรงบันดาลใจ และช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกการตัดสินใจ
สำหรับคนที่ชอบความทันสมัย โต๊ะแบบสายเท่ที่ดูเรียบง่ายแต่ครบครันด้วยฟังก์ชันคือสไตล์ที่ใช่ การจัดโต๊ะทำงานสไตล์นี้เหมาะกับผู้ที่ทำงานแบบเน้นประสิทธิภาพ คิดเร็ว ทำเร็ว
เมื่อคุณได้ไอเดียการจัดโต๊ะทำงานที่ตรงใจแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะสไตล์มินิมอล เรียบหรู โต๊ะสายมูแบบจัดเต็ม หรือโต๊ะสุดเท่แบบมืออาชีพ อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญก็คือ การเลือกซื้อของแต่งโต๊ะที่ใช่ โชคดีที่ยุคนี้เราไม่ต้องเดินหาไอเทมตามห้างให้เหนื่อยอีกต่อไป เพราะเราสามารถหาซื้อทั้งของแต่งโต๊ะน่ารัก ๆ และของเสริมดวงแบบมินิมอลได้ง่าย ๆ ทางออนไลน์
มาดูกันว่าจะมีเทคนิคช้อปออนไลน์อย่างไรให้คุ้มสุด
ถ้าคุณกำลังวางแผนจัดโต๊ะใหม่ การสมัครบัตรช้อปปิ้งออนไลน์ อย่าง บัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม จะช่วยให้คุณช้อปได้คุ้มยิ่งขึ้น เพราะบัตรนี้เป็นตัวช่วยทางการเงินสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องการใช้จ่าย ไม่ว่าจะช้อป กิน ดูหนัง ฟังเพลง หรือเติมเกม ผ่านช่องทางออนไลน์ที่สะดวก อีกทั้งยังได้สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม มาพร้อมกับเทคโนโลยีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส และระบบจัดการบัตรผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
ข้อมูลอ้างอิง: