Apple ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาอุปกรณ์เสียง และซีรีส์ AirPods ก็เป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจน ตั้งแต่รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2016 จนถึงวันนี้ AirPods ได้กลายเป็นหูฟังไร้สายที่หลายคนหมายตา ด้วยความล้ำทั้งในด้านดีไซน์ เสียง ฟีเจอร์อัจฉริยะ และการผสานเข้ากับระบบนิเวศของ Apple อย่างไร้รอยต่อ
ปัจจุบัน AirPods มีให้เลือกหลายรุ่น ดังนั้น คำถามที่ตามมาคือ “AirPods รุ่นฮิตมีกี่รุ่น และควรเลือกซื้อรุ่นไหนดี ?” บทความนี้จึงจะพาคุณไปเปรียบเทียบ AirPods รุ่นต่าง ๆ แบบชัด ๆ ทุกมุม เพื่อให้คุณตัดสินใจซื้อได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น
AirPods 4 : ทางเลือกใหม่ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าเดิม
AirPods 4 มีด้วยกัน 2 เวอร์ชัน ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน (ราคา 4,990 บาท) และรุ่นที่มาพร้อมการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็กทิฟ (ANC) (ราคา 6,490 บาท) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ฟีเจอร์ ANC ปรากฏใน AirPods ซีรีส์หลัก (ที่ไม่ใช่รุ่น Pro หรือ Max)
AirPods 4 รุ่นธรรมดา เสียงดี ใช้งานง่าย
- ราคาเข้าถึงง่ายสุดในตระกูล AirPods
- รองรับ Spatial Audio พร้อม Head Tracking แบบไดนามิก
- ไม่มี ANC, Adaptive Audio หรือโหมด Transparency
- เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่อยากได้หูฟังไร้สาย Apple แท้ ๆ ในราคาย่อมเยา
AirPods 4 รุ่น ANC เพิ่มฟีเจอร์คุ้มค่าในราคาจับต้องได้
- เพิ่มฟีเจอร์ ANC + Adaptive Audio + Transparency Mode เข้ามา
- ราคาเพียง 6,490 บาท ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ใกล้เคียง AirPods Pro
- เคสชาร์จไร้สาย USB-C พร้อมลำโพงในตัว ใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Find My ได้
- ไม่มีเซนเซอร์ตรวจจับสุขภาพการได้ยิน
AirPods Pro 2 : หูฟังระดับโปรที่มาพร้อมฟีเจอร์สุขภาพการได้ยิน
ในขณะที่ AirPods 4 รุ่นใหม่ถือว่า “เพียงพอ” แล้วสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับใครที่ต้องการเสียงที่ละเอียดกว่า การตัดเสียงรบกวนที่เหนือชั้น และประสบการณ์การฟังที่ล้ำลึกยิ่งขึ้น AirPods Pro 2 (8,990 บาท) คือรุ่นที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวอย่างครบครัน ยิ่งไปกว่านั้น Apple ยังยกระดับ AirPods รุ่นนี้ให้ไม่ใช่แค่หูฟัง แต่เป็นผู้ช่วยด้านสุขภาพการได้ยินที่ล้ำสมัยอีกด้วย
ไฮไลต์เด่นของ AirPods Pro 2
- เปรียบเทียบกับ AirPods 4 รุ่นนี้มีระบบ ANC ที่ดีกว่าถึง 2 เท่า
- Adaptive Audio และ Transparency Mode ที่ฉลาดขึ้น
- มีฟีเจอร์สุขภาพหู : ปรับเสียงสนทนา, ลดเสียงดังฉับพลัน, แยกเสียงพื้นหลัง
- เคส MagSafe พร้อม Find My, ลำโพง และช่องคล้องสายครบ
AirPods Max : สุดยอดของหูฟัง พลังเสียงระดับสตูดิโอ
อย่าเพิ่งตัดสินใจว่าจะซื้อ AirPods รุ่นไหนดี ถ้ายังไม่ได้อ่านรีวิว AirPods Max (19,900 บาท) เพราะนี่คือที่สุดของ AirPods ด้วยแนวคิด “เสียงระดับโปรในรูปแบบครอบหู” ดังนั้น AirPods Max จึงเป็นสุดยอดประสบการณ์การฟังในทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพเสียงที่แม่นยำระดับสตูดิโอ ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และความรู้สึกหรูหราขณะใช้งาน ตอบโจทย์ทั้ง Audiophile และคนทำงานสายเสียงที่ต้องการพลังเสียงสมจริงในทุกย่านความถี่
ไฮไลต์เด่นของ AirPods Max
- ระบบ ANC และ Transparency ระดับท็อป
- ไดรเวอร์คุณภาพสูงที่ขับเสียงได้ละเอียด มีมิติ และบาลานซ์อย่างมืออาชีพ
- วัสดุอะลูมิเนียมเกรดพรีเมียม พร้อมเม็ดมะยมดิจิทัล (Digital Crown) ควบคุมเสียง
- ฟีเจอร์ Spatial Audio และ Head Tracking แบบครบครัน
สุดท้ายแล้ว เลือกแบบไหนดี ?
- สำหรับผู้มีงบประมาณจำกัด : AirPods 4 รุ่นมาตรฐานเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด ให้คุณภาพเสียงที่ดีและฟีเจอร์พื้นฐานครบถ้วน หากคุณใช้งานส่วนใหญ่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบ เช่น ที่บ้านหรือที่ทำงานส่วนตัว รุ่นนี้น่าจะเพียงพอ
- สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการความสมดุล : AirPods 4 รุ่นตัดเสียงรบกวนเป็นจุดกึ่งกลางที่น่าสนใจ ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้น ฿1,500 คุณจะได้ฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนที่ช่วยให้ใช้งานในที่สาธารณะได้ดีขึ้น เคสชาร์จไร้สาย และลำโพงสำหรับแอปค้นหาของฉัน ซึ่งให้ความคุ้มค่าสูง
- สำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ครบครัน : AirPods Pro 2 คือตัวเลือกที่ดีที่สุด หากคุณต้องการฟีเจอร์ด้านสุขภาพการได้ยินและการตัดเสียงรบกวนระดับโปร ถึงแม้ราคาจะสูงกว่า AirPods 4 รุ่นตัดเสียงรบกวนประมาณ 2,500 บาท แต่ฟีเจอร์เพิ่มเติมอาจคุ้มค่าสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ที่ดีที่สุด
- สำหรับออดิโอไฟล์และมืออาชีพ : เปรียบเทียบกับ AirPods รุ่นอื่น ๆ แล้ว AirPods Max มอบคุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานด้านเสียงหรือต้องการประสบการณ์การฟังระดับไฮเอนด์ แต่อาจเกินความจำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
บทความนี้น่าจะช่วยตอบทุกข้อสงสัยว่า AirPods รุ่นฮิตที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมีกี่รุ่น และต้องเลือกแบบไหนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเลือก AirPods รุ่นไหน ก็ช้อปได้สบายกระเป๋ายิ่งขึ้นด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม ให้คุณผ่อนสินค้า Apple 0%* นานสูงสุด 10 เดือน ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี ใช้จริง ได้จริง เหมาะกับคนรักเทคโนโลยีที่ฉลาดเลือก นอกจากนั้น ยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมาย
- รับเครดิตเงินคืน 1%* เมื่อใช้จ่ายด้วยบัตรวีซ่าแพลทินัมที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ที่ร่วมรายการ
- ผ่อนชำระค่ารักษาพยาบาล 0% หรือ ดอกเบี้ยพิเศษนานสูงสุด 10 เดือน และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000 บาท ณ โรงพยาบาลชั้นนำที่ร่วมรายการ
- ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ทั้งในและต่างประเทศ วงเงินสูงสุด 6 ล้านบาท
หากคุณกำลังมองหาบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ทุกการใช้จ่าย ทั้งไลฟ์สไตล์ การเดินทาง สุขภาพ และความบันเทิงในชีวิตประจำวัน สมัครบัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม (Krungsri Platinum) เพื่อเป็นคู่หูที่ใช่สำหรับทุกจังหวะชีวิตวันนี้ เพื่อเริ่มต้นความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่ายแบบที่คุณเลือกได้เอง
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี
ข้อมูลอ้างอิง: