การไหว้พระ 9 วัดถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของชาวไทยและนักท่องเที่ยวสายบุญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามอันศักดิ์สิทธิ์และทรงคุณค่า ทั้งนี้ การไหว้พระไม่เพียงแต่เพื่อความเป็นสิริมงคลเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสอันดีในการพักใจ สะสมบุญ และเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทยผ่านสถาปัตยกรรมที่วิจิตรบรรจงอีกด้วย
การไหว้พระ 9 วัดถือเป็นประเพณีอันดีงามที่ชาวไทยนิยมปฏิบัติเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งแต่ละวัดล้วนมีประวัติศาสตร์และความสำคัญที่น่าศึกษา ดังนี้
พระอารามหลวงคู่พระบรมมหาราชวัง เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย ภายในมีสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมชั้นเยี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งพระระเบียงคด ยักษ์ทวารบาล และจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งผู้มาเยือนจะได้สัมผัสถึงความวิจิตรงดงามของศิลปะไทยอย่างแท้จริง
วัดโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่ในกรุงรัตนโกสินทร์ โดดเด่นด้วยศิลาจารึกอันล้ำค่าซึ่งบันทึกศาสตร์ความรู้โบราณไว้อย่างมากมาย ทั้งตำรายาไทย องค์ความรู้ด้านแพทย์แผนโบราณ และศาสตร์การนวดแผนไทย สำหรับผู้มาเยือน นอกจากจะได้ศึกษาศาสตร์โบราณแล้ว ยังจะได้ชื่นชมพระพุทธไสยาสน์อันงดงามซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานครอีกด้วย
วัดอรุณฯ โดดเด่นด้วยพระปรางค์ที่สูงตระหง่านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สถาปัตยกรรมพระปรางค์แต่ละองค์ล้วนประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีและเศษถ้วยชามจีนโบราณ สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นอย่างชัดเจน ทั้งนี้ พระปรางค์วัดอรุณนับเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร และเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและเมืองหลวงได้
วัดระฆังฯ เป็นวัดโบราณมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน "หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า" พระประธานเนื้อทองสำริดปางสมาธิ นอกจากนี้ยังมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือพระวรรณวาดวิจิตร (ทอง จารุวิจิตร) จิตรกรเอกสมัยรัชกาลที่ 6 และพระปรางค์ที่ได้รับการยกย่องว่าถูกต้องตามแบบแผนที่สุดในประเทศไทย ที่สำคัญ วัดระฆังยังเป็นที่จำพรรษาของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระเถระผู้ปรับปรุงพระคาถาชินบัญชรอันศักดิ์สิทธิ์ให้สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งชาวไทยเคารพนับถือมาจนถึงปัจจุบัน
พระอารามหลวงที่รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น มีความโดดเด่นด้วยพระวิหารหลวงขนาดใหญ่เป็นที่ประดิษฐานของ "พระศรีศากยมุนี" พระพุทธรูปสำคัญที่สร้างในสมัยสุโขทัย นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติได้อย่างวิจิตรงดงาม
วัดสระเกศโดดเด่นด้วยพระบรมบรรพต หรือภูเขาทอง ที่สูงเด่นเป็นสง่า ตั้งตระหง่านในลักษณะเจดีย์ทรงระฆังที่สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ได้โดยรอบ พร้อมกันนั้น วัดแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่สำคัญ ทำให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดชนะสงคราม เป็นวัดโบราณมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อ "วัดกลางนา" ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดตองปุ" ก่อนที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทจะทรงบูรณปฏิสังขรณ์และพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดชนะสงคราม" เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะในสงครามกับพม่า ภายในพระอุโบสถมีพระประธาน "หลวงพ่อปู่" (พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์) ที่มีประวัติความศักดิ์สิทธิ์ และจุดเด่นพิเศษคือเฉลียงด้านหลังพระประธานที่ทำเป็นคูหาบรรจุพระอัฐิเจ้านายฝ่ายวังหน้า ซึ่งถือเป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่พบในวัดอื่น
พระอารามหลวงสำคัญเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชหลายพระองค์ รวมถึงสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ภายในมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่พระวิหารที่งดงามเป็นศิลปะไทยประยุกต์ และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินสีห์ พระพุทธรูปสำคัญที่อัญเชิญมาจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
วัดประจำรัชกาลที่ 5 ที่มีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมตะวันตก สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในสมัยรัชกาลที่ 5 ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานของ "พระพุทธอังคีรส" พระพุทธรูปประจำรัชกาลที่ 5 และเป็นสถานที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ปัจจุบัน
การเดินทางไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพมหานคร สามารถแบ่งออกเป็น 2 เส้นทางหลัก ดังนี้
เส้นทางนี้เน้นวัดสำคัญในเขตเกาะรัตนโกสินทร์และริมแม่น้ำเจ้าพระยา
อีกหนึ่งเส้นทางที่สามารถต่อเนื่องจากเส้นทางแรก หรือแยกไปอีกวันหนึ่งได้
การเดินทางไหว้พระ 9 วัดนี้อาจใช้เวลาทั้งวัน หรืออาจแบ่งเป็น 2 วันเพื่อไม่ให้เหนื่อยล้าจนเกินไป ระหว่างการเดินทาง แนะนำให้เตรียมปัจจัยทำบุญให้พร้อม และแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย และควรศึกษาเวลาเปิด-ปิดของแต่ละวัดไว้ล่วงหน้า โดยส่วนใหญ่จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
การเดินทางไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นการเสริมสิริมงคลแล้ว ยังเป็นการเดินทางที่ต้องใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ระหว่างทาง
เพื่อให้ทริปของคุณคุ้มค่ายิ่งขึ้น ลองใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม (Krungsri Visa Platinum) ที่พร้อมมอบสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับสายบุญอย่างคุณ โดยเฉพาะการรับเครดิตเงินคืน 1% เมื่อใช้จ่ายที่สถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมรายการ เมื่อเติมน้ำมันครบทุก ๆ 800 บาทต่อเซลล์สลิป ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไหว้พระได้อย่างดี นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เช่น ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งใน และต่างประเทศ วงเงินสูงสุด 6 ล้านบาท รวมถึงการแบ่งจ่ายค่ารักษาพยาบาล 0% นานสูงสุด 10 เดือน ณ โรงพยาบาลชั้นนำที่ร่วมรายการ เพื่อให้คุณเดินทางไหว้พระได้อย่างอุ่นใจ
เสริมบุญให้ตัวเอง พร้อมเสริมความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย สมัครบัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม (Krungsri Visa Platinum) เพื่อรับสิทธิประโยชน์วันนี้ ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี
ข้อมูลอ้างอิง
