พูดคุยกับเราได้ที่

0 2646 3555

ตรวจสุขภาพประจำปีจำเป็นอย่างไร และควรตรวจอะไรบ้าง ?

ตรวจสุขภาพประจำปีจำเป็นอย่างไร และควรตรวจอะไรบ้าง ?
 
   

หลายคนอาจมองว่า การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นเท่าไรนัก โดยเฉพาะใครที่รู้สึกว่าตัวเองยังแข็งแรงดี ไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การตรวจสุขภาพเป็นเหมือนการเช็กสภาพร่างกาย เพื่อให้มั่นใจว่าสุขภาพยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และหากมีความผิดปกติ ก็สามารถปรับพฤติกรรมหรือดูแลตัวเองได้ทันก่อนที่อาการจะรุนแรง

วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่า การตรวจสุขภาพประจำปีมีข้อดีอย่างไร และควรตรวจอะไรบ้าง

 
การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นเรื่องที่ควรทำเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม
การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นเรื่องที่ควรทำเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม
 


1. ทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปี

ช่วยให้มั่นใจว่าสุขภาพแข็งแรงจริง ๆ

แม้หลายคนอาจรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงดี แต่โรคบางอย่าง เช่น เบาหวานหรือความดันโลหิตสูงในระยะเริ่มต้นอาจไม่แสดงอาการใด ๆ จนกว่าจะรุนแรงขึ้น หรือบางครั้งร่างกายอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น หรือระดับไขมันที่เกินมาตรฐาน ดังนั้น การตรวจเป็นประจำจึงเป็นเสมือนการดักจับปัญหาสุขภาพให้ได้อย่างทันท่วงที

 

ลดโอกาสเกิดโรคร้ายแรง

หลาย ๆ โรค เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคหัวใจ สามารถป้องกันได้หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ การตรวจสุขภาพช่วยให้คุณดูแลตัวเองได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการค้นหาโรคร้ายในระยะเริ่มต้น เช่น มะเร็ง ซึ่งหากตรวจพบแต่เนิ่น ๆ โอกาสรักษาให้หายขาดจะสูงกว่ามาก นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพยังช่วยให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงของโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้คำแนะนำในการป้องกันได้ตรงจุด

 

คุ้มค่ากว่าการรักษาในระยะยาว

เมื่อเทียบกับค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เจ็บป่วย การจ่ายค่าตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าแน่นอน เพราะค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพนั้นถูกกว่าค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วยหนักเป็นสิบเท่า ยกตัวอย่างเช่น ค่าตรวจน้ำตาลในเลือดอาจอยู่ที่หลักร้อย แต่ค่ารักษาภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานอาจสูงถึงหลักแสนหรือล้าน ดังนั้น การตรวจพบเบาหวานแต่เนิ่น ๆ และควบคุมได้ดี จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล

 

ช่วยปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะกับสุขภาพของตัวเอง

ผลตรวจสุขภาพสามารถช่วยให้คุณรู้ว่าควรรับประทานอาหารแบบไหน ออกกำลังกายอย่างไร หรือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใดบ้างเพื่อให้สุขภาพดีขึ้น ทำให้เราสามารถวางแผนการดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น หากพบว่าระดับไขมันในเลือดสูง อาจต้องลดอาหารมันและทอด เพิ่มผักผลไม้ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ หรือหากพบว่ากระดูกเริ่มบาง อาจต้องเพิ่มอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี ซึ่งการมีข้อมูลสุขภาพที่ชัดเจนจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงขึ้น

 
ตรวจสุขภาพประจำปีพื้นฐานควรตรวจอะไรบ้าง - ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต อัตราการเต้นหัวใจ
ตรวจสุขภาพประจำปีพื้นฐานควรตรวจอะไรบ้าง - ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต อัตราการเต้นหัวใจ


2. ตรวจสุขภาพประจำปี ควรตรวจอะไรบ้าง ?

รายการตรวจสุขภาพอาจแตกต่างกันตามแต่ละช่วงวัยและประวัติสุขภาพส่วนบุคคล แต่โดยทั่วไปจะมีดังนี้

  • ตรวจร่างกายพื้นฐาน เช่น ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อประเมินสภาพร่างกายเบื้องต้น ดูว่าค่าดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่
  • ตรวจเลือด เพื่อดูระดับน้ำตาล ไขมันในเลือด ความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงตรวจการทำงานของตับและไต ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ควรตรวจเช็กเป็นประจำ เพราะหากมีปัญหาอาจไม่แสดงอาการในระยะแรก
  • ตรวจเฉพาะทางตามช่วงวัย การตรวจสุขภาพควรปรับให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เพราะความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปตามอายุ เช่น
    • วัย 20-30 ปี : เน้นการตรวจเลือดพื้นฐานเพื่อดูภาพรวมสุขภาพ ตรวจระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด สำหรับผู้หญิงควรเริ่มตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap Smear) ตั้งแต่อายุ 21 ปีหรือเมื่อมีเพศสัมพันธ์แล้ว ทุก 3-5 ปี รวมถึงตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ
    • วัย 40 ปีขึ้นไป : ควรเพิ่มการตรวจหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และการทดสอบสมรรถภาพหัวใจ สำหรับผู้หญิงควรเริ่มตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) เพื่อคัดกรองมะเร็งเต้านมทุก 1-2 ปี ส่วนผู้ชายควรตรวจระดับ PSA ในเลือดเพื่อคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยเฉพาะหากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้
    • วัย 50 ปีขึ้นไป : ต้องเพิ่มการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้อง (Colonoscopy) ทุก 5-10 ปี หรือตรวจอุจจาระหาเลือดแฝงทุกปี ตรวจความหนาแน่นกระดูก (Bone Density Test) เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน นอกจากนี้ ควรตรวจตาและหูอย่างละเอียดเพราะการมองเห็นและการได้ยินอาจเสื่อมลงตามวัย
  • ตรวจตามไลฟ์สไตล์และปัจจัยเสี่ยง หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคใดโรคหนึ่ง หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ควรตรวจเพิ่มเติมตามคำแนะนำของแพทย์ ตัวอย่างเช่น
    • ผู้ที่สูบบุหรี่ควรเอกซเรย์ปอดเป็นประจำ
    • ผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจในครอบครัวควรตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
    • ผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ ควรตรวจวัดสายตาเป็นพิเศษ
 

การตรวจสุขภาพประจำปีไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวเท่านั้น แต่เป็นวิธีดูแลตัวเองสำหรับทุกคนเพื่อให้มั่นใจว่าสุขภาพยังแข็งแรงดี ซึ่งนอกจากการตรวจสุขภาพ การทำประกันชีวิตที่มาพร้อมความคุ้มครองครบครัน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจ โดยสามารถใช้บัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า แพลทินัม จ่ายประกัน AIA พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย

  • รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 2,000 บาท* (0.5%) เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันภัยของเอไอเอ ทั้งเบี้ยประกันปีแรก และเบี้ยต่ออายุ
  • รับเครดิตเงินคืนเพิ่มพิเศษเพิ่มขึ้น รวมสูงสุด 12,000 บาท* เมื่อชำระเบี้ยประกันของเอไอเอตามเงื่อนไข ทั้งปีแรกและปีต่ออายุ (กรุณาลงทะเบียนก่อนร่วมรายการ)
  • แบ่งจ่าย 0%* นาน 6 เดือน ค่าเบี้ยประกันภัยเอไอเอ ปีแรก
 

นอกจากบัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า แพลทินัม แพลทินัม แล้ว ยังมีโปรโมชันบัตรเครดิตจ่ายประกันอื่น ๆ สุดคุ้มสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต กรุงศรี ที่ให้คุณรับเครดิตเงินคืนได้สูงสุดถึง 20,000 บาท (เงื่อนไขขึ้นอยู่กับประเภทบัตรเครดิต กรุงศรี ที่ร่วมรายการ)

 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี

 

ข้อมูลอ้างอิง:



สมัครบัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า แพลทินัม