ถ้าพูดถึงเทรนด์การท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงนี้ นอกจากจะแบกเป้ลุยเดี่ยว หรือตามไปชิมร้านลับจากคนท้องถิ่นแล้ว อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงนั่นก็คือ ‘การขับรถเที่ยวต่างประเทศ’ ยิ่งในช่วงปลายปีนี้หลายคนคงเริ่มวางแผนทำใบขับขี่สากล หรือใบขับขี่ระหว่างประเทศ’ เพื่อซัปพอร์ตการเที่ยวแบบ Road Trip ต่างแดนอย่างถูกกฎหมาย เพราะทั้งสะดวกสบาย เรายังได้พบเจอประสบการณ์เที่ยวใหม่ ๆ ที่อาจทำให้ทริปนี้สนุกขึ้นอีกด้วย
การทำใบขับขี่สากล สำหรับท่องเที่ยวต่างประเทศ อย่างญี่ปุ่นจะมีขั้นตอนและต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ในบทความนี้มีทุกคำตอบที่เพื่อน ๆ อาจสงสัยมาฝาก
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงคิดว่า ‘ใบขับขี่สากล’ ต้องเป็น Smart Card เหมือนกับใบขับขี่ปกติอยู่แน่ ๆ แต่บอกเลยว่าคิดผิด ! เพราะจริง ๆ แล้วหน้าตาของใบขับขี่สากลนั้นจะเป็นเหมือนเล่มพาสปอร์ต ซึ่งจะมีข้อมูลต่าง ๆ ของเราอย่างครบถ้วน รวมทั้งข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ในหลายภาษาเพื่อให้เกิดความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในประเทศปลายทางเมื่อถูกเรียกตรวจสอบนั่นเอง
ว่าแต่...ใบขับขี่สากลมีกี่แบบ ? และสามารถใช้ในประเทศไหนได้บ้าง ? ตามมาดูต่อข้างล่างนี้ได้เลย
ในปัจจุบันใบขับขี่สากลแบ่งเป็น 2 ประเภท ตามการแบ่งอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนนที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีอายุและรายละเอียดประเทศที่สามารถใช้ได้แตกต่างกัน ดังนี้
สำหรับประเทศที่เข้าร่วมภาคีอนุสัญญาทั้งสองฉบับ ทั้ง 84 ประเทศทั่วโลก เช่น สหราชอาณาจักร, อิตาลี, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน รวมถึงประเทศไทย ก็สามารถใช้ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ อนุสัญญาเวียนนา 1968 เพียงฉบับเดียวได้
เพื่อน ๆ ที่ต้องการขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ แล้วไม่แน่ใจว่าต้องใช้แบบไหน สามารถแจ้งรายชื่อประเทศที่ต้องการต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบได้ หรืออ่านรายละเอียดของประเภทใบขับขี่ระหว่างประเทศเพิ่มเติมได้ที่ รายชื่อประเทศภาคีภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเจนีวา ค.ศ.1949 และอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเวียนนา ค.ศ.1968 ได้เลย
ใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น แบบ Road Trip จะต้องทำใบขับขี่สากลตามอนุสัญญาเจนีวา ไม่สามารถใช้ใบขับขี่สากลตามสนธิสัญญาเวียนนาที่ญี่ปุ่นได้ จึงต้องตรวจสอบให้ถ้วนถี่ เพื่อที่จะเดินทางได้อย่างราบรื่น
สำหรับการทำใบขับขี่สากล เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปดำเนินการได้ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08:30-15:30 น. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ DLT Call Center โทร. 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง ณ สถานที่ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติสำคัญของผู้ทำใบขับขี่สากลนั้น ต้องเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล หรือใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ ส่วนบุคคลชั่วคราว มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ถึงจะมีสิทธิ์ยื่นขอทำ International Driving Permit (IDP) ได้
ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้วอยากทำใบขับขี่สากลเพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นหรือประเทศอื่น ๆ สามารถจองคิวออนไลน์ได้ ผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ก่อนวันใช้บริการ โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
การทำใบขับขี่สากล จะมีค่าธรรมเนียม 505 บาท
หลังจากจองคิวทางออนไลน์และเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสารทั้งหมดเข้าไปรับบริการ ณ สถานที่ที่เราจองไว้ได้เลย โดยมีขั้นตอนดังนี้
เพียงเท่านี้เพื่อน ๆ ก็มีใบขับขี่ระหว่างประเทศ (IDP) พร้อมขับรถเที่ยวในต่างประเทศแล้วล่ะ
แต่อีกหนึ่งเรื่องที่เพื่อน ๆ ควรรู้ นั่นก็คือ การทำใบขับขี่สากลไม่ต้องอบรมหรือต้องสอบ แต่จะต้องเป็นผู้ที่ถือใบขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปีเท่านั้น ถ้าถือใบขับขี่รถส่วนบุคคลชั่วคราว 1 ปีจะไม่สามารถยื่นคำขอใบขับขี่สากลได้
นี่ก็คือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการทำใบขับขี่สากล (International Driving Permit) ที่เรามาอัปเดตกัน หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้เพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผน Road Trip ในต่างแดน ได้เตรียมตัวให้พร้อมตามกฎหมาย แต่ที่สำคัญอย่าลืมศึกษากฎหมายการขับขี่ของประเทศปลายทางให้รอบคอบ เพื่อความปลอดภัยของคุณ
และสำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังวางแผนขับรถเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวที่ญี่ปุ่นแบบฟิน ๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ก็อย่าลืมทำใบขับขี่สากลญี่ปุ่นพร้อมพกผู้ช่วยให้คุณอุ่นใจตลอดเส้นทางอย่าง บัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม ไปด้วยนะ เพื่อให้ทุกเส้นทางของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะแวะชิลล์ แวะช้อป หรือแวะชิม ก็ใช้จ่ายง่าย
พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมาย ทั้งเครดิตเงินคืน 3%* เมื่อใช้จ่ายที่ประเทศญี่ปุ่นและร้านอาหารทั่วโลก *ตามเงื่อนไขที่กำหนด และบริการพิเศษที่ Airport Lounge ณ สนามบินญี่ปุ่นและสนามบินที่ร่วมรายการอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.krungsricard.com/th/Product/creditcard/krungsri-jcb ได้เลย