พูดคุยกับเราได้ที่

0 2646 3555

สินเชื่อบุคคล บัตรกรุงศรีอยุธยา

รายละเอียดดอกเบี้ย/ค่าธรรมเนียมต่างๆ

วิธีการคำนวณยอดเงินผ่อนชำระต่อเดือน

ยอดเงินผ่อนชำระต่อเดือน = [ยอดสินเชื่อ/ระยะเวลาการผ่อนชำระ]  +  [ยอดสินเชื่อ x (ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน % ต่อเดือน)]

รายละเอียดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการใช้สินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด 
» รายละเอียด และค่าธรรมเนียมต่างๆ (ดาวน์โหลดไฟล์)

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนตามกำหนด จะไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 25% ต่อปี

 

สัญญาให้สินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด

ข้าพเจ้า ผู้มีชื่อปรากฎและลงลายมือชื่ออยู่ด้านหน้าของคำขอรับสินเชื่อนี้ (ผู้กู้) ตกลงขอรับสินเชื่อบุคคล จากบริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด (ผู้ให้กู้) ในวงเงินตามที่ผู้ให้กู้จะได้อนุมัติ และตกลงว่าจะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ ของสัญญาให้สินเชื่อบุคคล ดังรายละเอียดต่อไปนี้ รวมทั้งที่ผู้ให้กู้จะได้กำหนดและให้มีผลใช้บังคับเป็นคราว ๆ ทุกประการ 

1. ผู้กู้ตกลงขอรับสินเชื่อบุคคล จากผู้ให้กู้ และผู้ให้กู้ตกลงให้สินเชื่อบุคคล แก่ผู้กู้ในวงเงินสินเชื่อตามที่ผู้ให้กู้จะพิจารณาอนุมัติและแจ้งให้ผู้กู้ทราบ ผู้กู้รับทราบ และตกลงว่าผู้กู้อาจขอรับเงินกู้ทั้งหมดในคราวเดียวหรือจะขอรับเงินกู้ส่วนที่เหลือเป็นคราว ๆ ไป ซึ่งแต่ละครั้งจะต้องมีจำนวนไม่ต่ำกว่าจำนวนขั้นต่ำที่ผู้ให้กู้กำหนดภายในวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากผู้ให้กู้ โดยผู้กู้จะลงลายมือชื่อในคำขอรับสินเชื่อตามแบบที่ผู้ให้กู้กำหนดหรือปฏิบัติตามวิธีขอรับเงินกู้ตามข้อ 3. หรือวิธีอื่นที่ผู้ให้กู้กำหนดเป็นคราว ๆ ไป และให้ถือว่าจำนวนที่ผู้กู้ขอรับไปทั้งหมดเป็นจำนวนเงินกู้ตามสัญญานี้ สินเชื่อบุคคล เป็นสินเชื่อประเภทวงเงินกู้หมุนเวียนแบบมีกำหนดระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอนและ/หรือแบบมีกำหนดการชำระคืนขั้นต่ำผู้กู้มีสิทธิร้องขอใช้วงเงินสินเชื่อประเภทหนึ่งประเภทใดหรือทุกประเภท อย่างไรก็ตามผู้ให้กู้สงวนสิทธิในการพิจารณาเปิดใช้ ระงับ หรือเปลี่ยนแปลงประเภทของสินเชื่อที่ให้บริการ และพิจารณาอนุมัติการให้วงเงินสินเชื่อแก่ผู้กู้ตามหลักเกณฑ์ของผู้ให้กู้ 

2. วงเงินสินเชื่อที่ผู้ให้กู้อนุมัติตามข้อ 1 เป็นวงเงินสินเชื่อที่ผู้ให้กู้สามารถทำการพิจารณาทบทวนวงเงินสินเชื่อ (ไม่ว่าปรับเพิ่มหรือลด) ในภายหลังโดยพิจารณาจากประวัติและลักษณะการใช้วงเงิน ประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้ รวมถึงระยะเวลาที่ผู้กู้เป็นผู้กู้ของผู้ให้กู้ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของผู้ให้กู้ ทั้งนี้ การปรับเพิ่มหรือลดวงเงินต่าง ๆ ดังกล่าว อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามรอบบัญชีหรือตามแต่ผู้ให้กู้เห็นสมควร ในกรณีที่ผู้ให้กู้พิจารณาลดวงเงินสินเชื่อหรือไม่อนุมัติวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้กู้ ผู้กู้จะไม่มีสิทธิเบิกถอนสินเชื่อดังกล่าวจากผู้ให้กู้อีก ทั้งนี้ไม่กระทบกับสินเชื่อที่ผู้กู้ได้เบิกถอนไปแล้ว ซึ่งผู้กู้จะต้องชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยค้างชำระค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ผู้กู้มีหน้าที่ต้องชำระให้แก่ผู้ให้กู้ รวมทั้งหนี้ทุกชนิดทุกจำนวนที่ผู้กู้มีต่อผู้ให้กู้ภายในกำหนดระยะเวลาที่ตกลงกันไว้กับผู้ให้กู้ 

3. เพื่อประโยชน์แห่งการรับและให้สินเชื่อตามคำขอรับสินเชื่อ ผู้กู้ยอมรับว่าการเบิกถอนสินเชื่ออาจทำได้หลายวิธี เช่น (ก) การฝากเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้กู้มีอยู่กับธนาคารพาณิชย์ เมื่อผู้ให้กู้ได้นำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้กู้แล้ว ให้ถือว่าผู้กู้ได้รับต้นเงินกู้นับตั้งแต่วันที่ผู้ให้กู้นำเงินที่ผู้กู้ขอเบิกถอนเข้าบัญชีของผู้กู้ไม่ว่าผู้กู้จะได้เบิกถอนเงินจากบัญชีธนาคารที่ได้แจ้งไว้แล้วหรือไม่ก็ตาม หากผู้กู้ต้องการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของบัญชีเงินฝากธนาคาร ผู้กู้ต้องแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบเป็นหนังสือตามแบบที่ผู้ให้กู้กำหนด (ข) การทำคำขอเบิกใช้วงเงินสินเชื่อตามแบบที่ผู้ให้กู้กำหนดผู้ให้กู้จะส่งมอบเงินตามที่ผู้กู้ร้องขอโดยผู้กู้จะต้องลงนามในเอกสารการรับเงินกู้ตามแบบที่ผู้ให้กู้กำหนด (ค) การเบิกถอนเงินสด/สินเชื่อผ่านเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ/หรือธนาคารอื่นที่เข้าร่วมเครือข่ายเอทีเอ็มพูล (ATM POOL) และ/หรือเครือข่ายพลัส (PLUS) (ตามแต่กรณี) โดยใช้บัตรสมาชิก (“บัตร”) กับเลขรหัสประจำตัวที่ผู้ให้กู้ออกให้ (ง) ทำคำขอเบิกต้นเงินกู้ทางโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติ หรือผ่านโปรแกรมของผู้ให้กู้ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือระบบออนไลน์ หรือระบบเว็บไซต์ของผู้ให้กู้โดยผู้กู้จะต้องใช้รหัสประจำตัวที่ผู้ให้กู้กำหนดและจัดส่งให้ผู้กู้ลงทะเบียนได้มาแล้ว และปฏิบัติตามวิธีการเบิกต้นเงินที่ผู้ให้กู้กำหนด ทั้งนี้ในการเบิกถอนด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ข้างต้น ผู้กู้ตกลงรับผิดชอบต่อความเสียหายและจำนวนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ทั้งหมด เปรียบเสมือนผู้กู้ได้ทำคำขอเบิกต้นเงินกู้ด้วยตัวเองในทุกกรณี ทั้งนี้การเบิกต้นเงินกู้ทางเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ทางโทรศัพท์หรือผ่านทางโปรแกรมของผู้ให้กู้ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือระบบออนไลน์ หรือระบบเว็บไซต์ของผู้ให้กู้ดังกล่าว ให้ถือต้นเงินกู้จากการเบิกทางช่องทางดังกล่าวเป็นอีกจำนวนหนึ่งที่ผู้กู้ได้รับตามสัญญากู้ที่ผู้กู้ทำไว้กับผู้ให้กู้ก่อนหน้านี้ (จ) วิธีการอื่นๆ ที่ผู้ให้กู้จะกำหนดและแจ้งให้ผู้กู้ทราบต่อไป 
ผู้กู้ตกลงว่าการเบิกถอนเงินสด/สินเชื่อผ่านช่องทางต่างๆ ตามข้อ 3 นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดตามที่ตกลงกับผู้ให้กู้ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (ก)การทำคำขอรับเงินสด/สินเชื่อของผู้กู้ (ข) ผ่านระบบโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติ หรือผ่านโปรแกรมของผู้ให้กู้ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือระบบออนไลน์ หรือระบบเว็บไซต์ของผู้ให้กู้ (ค) ผ่านเครื่อง EDC และ/หรือ (ง) จากเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) นั้น ให้การกระทำดังกล่าวถือเป็นการแสดงเจตนาการขอเบิกใช้เงินสด/สินเชื่อและให้บรรดาใบนำเงินฝากเงินเข้าธนาคารรายงานการเบิกจ่ายบันทึกโดยเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติหรือรายการโอนเงินอื่นใดนั้นถือเป็นหลักฐานการรับเงินสด/สินเชื่อโดยชอบแล้วของผู้กู้

4. ผู้กู้ตกลงชำระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้แก่ผู้ให้กู้ดังต่อไปนี้ (4.1) ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราที่ตกลงกับผู้ให้กู้ (รวมเรียกว่า“ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ”เพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงในขณะทำสัญญาดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดไม่เกิน 10 % ต่อปี และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราสูงสุดไม่เกิน 13% ต่อปี) ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าอากรแสตมป์ และ/หรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ตามอัตราที่ผู้ให้กู้ประกาศกำหนด ทั้งนี้ไม่เกินอัตราสูงสุดที่ผู้ให้กู้สามารถเรียกเก็บได้ตามกฏหมาย โดยจะคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินนับแต่วันที่ผู้กู้ได้รับหรือถือว่าได้รับสินเชื่อจากผู้ให้กู้ (4.2) หากผู้กู้ไม่ชำระเงินหรือชำระไม่ครบถ้วน ตามจำนวนที่ผู้ให้กู้เรียกเก็บในแต่ละเดือนผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้นำยอดค้างชำระของเดือนนั้น พร้อมค่าธรรมเนียมสินเชื่อในอัตราสูงสุดที่ผู้ให้กู้เรียกเก็บในขณะนั้นและ/หรือค่าธรรมเนียม ค่าปรับใด ๆ มาเรียกเก็บจากผู้กู้ในงวดบัญชีถัดไปทั้งจำนวน (4.3) หากมีการติดตามทวงถามให้ผู้กู้ชำระหนี้เงินกู้ค้างชำระ เนื่องจากการผิดนัดหรือผิดข้อสัญญาใดๆ ผู้กู้ตกลงรับผิดชอบชดใช้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้ให้กู้จนเต็มจำนวนซึ่งรวมทั้งค่าธรรมเนียมศาล ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีตามกฏหมาย ค่าทนายความและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

5. ผู้กู้ตกลงชำระคืนเงินกู้เป็นรายงวดต่อเดือนตามที่จะได้ทำความตกลงกับผู้ให้กู้ ผู้ให้กู้จะส่งใบแจ้งยอดบัญชีเพื่อเรียกเก็บค่างวดจากผู้กู้รายเดือนล่วงหน้าก่อนวันถึงกำหนดชำระไม่น้อยกว่าสิบ (10) วัน และผู้กู้ตกลงชำระค่างวดหรือหนี้อื่นใดๆให้แก่ผู้ให้กู้ภายในเวลาที่กำหนดในใบแจ้งยอดบัญชี ทั้งนี้ยอดเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยที่ผู้กู้จะต้องผ่อนชำระเป็นรายเดือนนี้อาจมีจำนวนแตกต่างกันตามยอดรวมต้นเงินกู้ที่ผู้กู้ได้เบิกใช้เป็นครั้งคราว นอกจากนี้หากผู้กู้ชำระสินเชื่อก่อนวันที่กำหนดในงวดใดๆ ให้ถือว่าผู้กู้ยินยอมให้นำเงินค่างวดดังกล่าวหักเข้าบัญชีเพื่อหักหนี้คงค้างของผู้กู้ ณ วันที่ผู้ให้กู้ได้รับชำระเงินจากผู้กู้ กรณีที่ผู้กู้ไม่ได้รับหรือได้รับแต่เห็นว่าใบแจ้งยอดบัญชีที่ได้รับไม่ถูกต้องทั้งหมด หรือบางส่วนไม่ว่าด้วยประการใด ผู้กู้จะต้องแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบภายใน 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้กู้ได้รับใบแจ้งยอดบัญชี ผู้ให้กู้จะตรวจสอบข้อมูลตามที่ผู้กู้โต้แย้งและแจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้กู้ทราบโดยเร็วที่สุด หากผู้กู้เพิกเฉยไม่โต้แย้งให้ถือว่ารายการและยอดหนี้ที่เรียกเก็บตามใบแจ้งยอดบัญชีนั้นถูกต้อง เว้นแต่ผู้กู้จะพิสูจน์ได้ว่ารายการและยอดหนี้ตามที่ปรากฏในใบแจ้งยอดดังกล่าวไม่ถูกต้องและความไม่ถูกต้องนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากความผิดหรือความบกพร่องของผู้กู้เอง ทั้งนี้ผู้กู้ต้องทักท้วงภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้กู้ได้รับใบแจ้งยอดบัญชี 

6. ผู้กู้ตกลงและรับทราบว่าผู้กู้อาจชำระเงินกู้คืนทั้งหมดก่อนกำหนดตามที่จะได้ตกลงกับผู้ให้กู้ โดยผู้กู้จะต้องแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 รอบบัญชี และผู้กู้ต้องชำระต้นเงินกู้ส่วนที่เหลือทั้งหมดดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินคำนวณจนถึงวันชำระเงิน ค่าธรรมเนียมและหนี้อื่นๆ ที่ค้างชำระทั้งหมดแก่ผู้ให้กู้ทั้งจำนวนก่อนครบกำหนดเวลาชำระคืนในวันครบรอบกำหนดเวลาชำระเงินงวดถัดไป ทั้งนี้ ผู้ให้กู้สงวนสิทธิที่จะคิดค่าปรับชำระหนี้คืนก่อนกำหนดโดยค่าปรับดังกล่าวจะเท่ากับผลต่างของ (ก)จำนวนดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่คำนวณบนยอดเงินต้นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ณ วันที่ผู้กู้เบิกใช้สินเชื่อถึงวันที่ผู้ทำการชำระคืนในวันที่มีการชำระสินเชื่อก่อนระยะเวลาที่กำหนดลบด้วย (ข) จำนวนดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่ผู้กู้ได้ชำระจริงทั้งหมดให้แก่ผู้ให้กู้จนถึงวันที่ผู้กู้มีการชำระสินเชื่อก่อนระยะเวลาที่กำหนดและหากเป็นกรณีที่ค่าธรรมเนียมสินเชื่ออัตราพิเศษต่ำกว่าอัตราปกติ ผู้ให้กู้สงวนสิทธิที่จะปรับค่าธรรมเนียมสินเชื่อดังกล่าวกลับมาเป็นอัตราค่าธรรมเนียมสินเชื่อในอัตราปกติที่ผู้ให้กู้สามารถคิดได้ ตามอัตราที่กฏหมายกำหนด ทั้งนี้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตามเมื่อรวมค่าปรับดังกล่าวกับจำนวนดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินทั้งหมดที่ผู้กู้ต้องชำระจะต้องไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ให้กู้สามารถคิดได้ตามอัตราที่กฏหมายกำหนด 

7. ผู้กู้ตกลงชำระค่างวดเงินกู้ ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ค่าปรับค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ที่ผู้กู้มีหน้าที่ต้องชำระให้แก่ผู้ให้กู้ตามคำขอรับสินเชื่อฉบับนี้โดยวิธีดังต่อไปนี้ (7.1) ชำระโดยวิธีหักบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ตามที่ได้ทำความตกลงไว้ล่วงหน้ากับผู้ให้กู้และธนาคาร (7.2) ชำระเงินเข้าบัญชีธนาคารพาณิชย์ที่ผู้ให้กู้แจ้งให้ทราบตามเงื่อนไขที่กำหนด (7.3) ชำระเงินผ่านบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสตามเงื่อนไขที่กำหนด (7.4) ชำระเงินผ่านบริการของที่ทำการไปรษณีย์ (PAY AY POST) หรือศูนย์บริการลูกค้าทีโอที (Just Pay) ตามเงื่อนไขที่กำหนด (7.5) ชำระเงินผ่านมือถือ ผ่านบริการ True Money เฉพาะผู้ใช้มือถือ True Move หรือชำระผ่านบริการ mPAY เฉพาะผู้ใช้มือถือระบบเอไอเอส วันทูคอล และเอไอเอส จีเอ็สเอ็มเท่านั้น ตามเงื่อนไขที่กำหนด (7.6) ชำระโดยวิธีการอื่นๆที่ผู้ให้กู้กำหนดและแจ้งให้ผู้กู้ทราบ ทั้งนี้ในการชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ผู้กู้ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการแต่ละรายการกำหนดและผู้กู้มีหน้าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมการใช้บริการตามอัตราที่ผู้ให้บริการรับชำระเงินแต่รายกำหนดโดยอาจจะชำระให้กับผู้ให้บริการโดยตรง หรือผู้ให้กู้จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บริการนี้ในใบแจ้งยอดบัญชีเดือนถัดไป (ตามแต่กรณี) ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของผู้ให้บริการแต่ละราย ผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้นำเงินที่ได้รับจากผู้กู้ไปชำระดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ และหนี้เงินกู้ที่กำหนดชำระหรือค้างชำระอยู่ และหากยังมีเงินคงเหลือจึงนำไปชำระหนี้สินเชื่อที่ถึงกำหนดชำระหรือค้างชำระอยู่ต่อไปหรือในลำดับก่อนหลังตามที่ผู้ให้กู้เห็นควรหรือในลำดับก่อนหลังตามที่ระบุไว้ในใบแจ้งยอดบัญชี

8. กรณีต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นเหตุแห่งการบอกเลิกสัญญา (8.1) ผู้กู้ผิดนัดชำระค่างวดที่ถึงกำหนดชำระไม่ว่างวดหนึ่งงวดใดไม่ว่ากับผู้ให้กู้หรือบุคคลใด ๆ หรือผิดนัดไม่ชำระหนี้ค้างชำระกับผู้ให้กู้เมื่อถึงกำหนดชำระเป็นจำนวนรวมกันตั้งแต่ 2 งวดขึ้นไปภายในรอบ 6 เดือน (8.2) ผู้กู้ไม่ปฏิบัติตนตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขข้อหนึ่งข้อใดตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้นอกจากการผิดนัดชำระค่างวดตามข้อ (8.1) และผู้กู้ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขข้อผิดสัญญาดังกล่าวตามที่ผู้ให้กู้ได้แจ้งให้ทราบและภายในเวลาที่ผู้ให้กู้กำหนด (8.3) ผู้กู้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จในการสมัครเป็นผู้กู้ไม่ว่าข้อความอันเป็นเท็จนั้นจะได้ปรากฎ หรือเป็นที่รับทราบของผู้ให้กู้ในภายหลังการรับเป็นผู้กู้ และ/หรือเมื่อปรากฎว่าข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารใบสมัครสินเชื่อ หลักฐาน หนังสือ คำรับรอง หรือเอกสาร ที่ผู้กู้มอบให้แก่ผู้กู้ไม่ถูกต้อง หรือเป็นข้อความเท็จหรือเป็นเอกสารปลอม หรือไม่มีผลบังคับตามกฎหมายในสารสำคัญในส่วนที่เกี่ยวกับสถานภาพของผู้กู้ หรือสถานะทางการเงิน หรือความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ (8.4) ในกรณีใช้สินเชื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่ผู้ให้กู้ให้ความเห็นชอบ และผู้กู้ได้รับเงินสดจากผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการโดยการคืนสินค้าหรือเลิกให้บริการ หรือลักษณะอื่นซึ่งผู้ให้กู้เห็นว่าผู้กู้ไม่มีเจตนา หรือความประสงค์จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการตามวัตถุประสงค์ของการซื้อสินค้าปกติ (8.5) เกิดการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงินของผู้กู้หรือรายได้จากแหล่งที่มาต่างๆ (หรือผู้กู้มีภาระหนี้หรือวงเงินไม่ว่ากับผู้ให้กู้หรือสถาบันการเงินอื่นสูงเกินกว่ารายได้) และผู้ให้กู้พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้กู้เป็นผู้มีฐานะการเงินไม่เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ หรือผู้กู้ประสบปัญหาอื่นใดอันเป็นสาระสำคัญซึ่งมีผลต่อการชำระหนี้ของผู้กู้(รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประสบปัญหาการว่างงานการเจ็บป่วยเรื้อรังหรือทุพพลภาพ) ผู้กู้ประสบปัญหาการว่างงาน การเจ็บป่วยเรื้อรัง หรือทุพพลภาพ หรือปัญหาอื่นใด (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงินหรือรายได้ของผู้กู้) ซึ่งเป็นสาระสำคัญอันมีผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกรณีที่ผู้กู้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ที่ค้างชำระเมื่อถึงกำหนดชำระไม่ว่ากับผู้ให้กู้หรือบุคคลใดๆ (8.6) ผู้ให้กู้พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้กู้ใช้สินเชื่อวัตถุประสงค์ และ/หรือมีพฤติกรรมหรือคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมในการใช้สินเชื่อ รวมถึงการใช้สินเชื่อเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ หรือพฤติกรรมการใช้สินเชื่อในทางฉ้อฉลหรือทุจริตหรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการปลอมและการใช้เอกสารปลอมในการขอใช้สินเชื่อและ/หรือการกระทำอันมีลักษณะฟอกเงิน) หรือเป็นการพ้นวิสัยหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน (8.7) กรณีที่ผู้กู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ หรือถึงแก่กรรม หรือสาบสูญ หรือถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ(8.8) ผู้ถูกฟ้องในคดีแพ่ง หรือคดีล้มละลาย หรือเป็นบุคคลที่ถูกหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานที่มีอำนาจมีคำสั่งให้ยึด/อายัดทรัพย์ หรือมีพฤติกรรมอันถือได้ว่าเป็นการฉ้อฉลผู้ให้กู้หรือสถาบันการเงินอื่น (8.9) เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกฏหมาย กระทรวง และ/หรือประกาศของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญแก่การประกอบกิจการของผู้ให้กู้และ/หรือการให้บริการของผู้ให้กู้ตามสัญญาฉบับนี้และผู้ให้กู้ตัดสินใจยกเลิกการให้สินเชื่อตามสัญญานี้ (8.10 )ในกรณีที่ผู้กู้ไม่มียอดคงค้าง ไม่มีค่าใช้จ่ายผ่านบัญชีของผู้ให้กู้ไม่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชีไม่ได้มีการติดต่อกับผู้ให้กู้ และ/หรือผู้ให้กู้ไม่สามารถติดต่อผู้กู้ได้ (กรณีใดกรณีหนึ่ง)เป็นเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 12 เดือน (8.11) กรณีอื่นๆ ตามที่ผู้ให้กู้จะประกาศให้ทราบต่อไป 

9. เมื่อเกิดเหตุผิดสัญญา ตามที่กำหนดในข้อ 8. ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใด ผู้ให้กู้มีสิทธิในการพิจารณาลดวงเงินหรือระงับสิทธิการใช้บัตรชั่วคราวได้ทันที และในกรณีที่ผู้ให้กู้ได้ส่งคำบอกกล่าวให้แก่ผู้กู้ตามหลักเกณฑ์การบอกกล่าวตามที่ระบุไว้ในสัญญานี้ เพื่อแจ้งถึงเหตุแห่งการผิดนัดหรือผิดสัญญา และเตือนให้ผู้กู้ดำเนินการแก้ไขการผิดสัญญาหรือผิดเงื่อนไขในเวลาที่กำหนด (ในกรณีที่สามารถแก้ไขได้แต่ไม่ได้แก้ไข) ผู้กู้มีสิทธิบอกเลิกการให้สินเชื่อตามสัญญานี้ได้ทันทีพร้อมทั้งเรียกให้ผู้กู้ชำระคืนเงินที่ค้างชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินค้างชำระ ค่าปรับ และค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ผู้กู้มีหน้าที่ต้องชำระให้แก่ผู้ให้กู้ รวมทั้งหนี้ทุกชนิดทุกจำนวนที่ผู้กู้มีต่อผู้กู้ให้กู้ได้ทันที และผู้กู้ตกลงรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้กู้ สำหรับบรรดาความเสียหายที่ผู้ให้กู้ได้รับ หรือพึงได้รับในกรณีการผิดสัญญา ทั้งนี้ การล่าช้าหรืองดเว้นใด ๆ ในการใช้สิทธิของผู้ให้กู้ตามกฏหมาย หรือตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนั้นไม่ถือว่าผู้ให้กู้สละสิทธิหรือให้ยินยอมในการดำเนินการใดๆ แก่ผู้กู้แต่ประการใด 

10. ในระหว่างที่มีเหตุผิดสัญญาเหตุใดเหตุหนึ่งเกิดขึ้น (นอกเหนือจากสิทธิตามข้อ 9) ผู้ให้กู้ขอสงวนสิทธิในการยกเลิกสิทธิพิเศษหรือสิทธิประโยชน์ใดๆ ที่มอบให้กับผู้กู้ในช่วงระหว่างระยะเวลาดังกล่าวมาถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกรณีที่ผู้กู้ได้รับอัตราค่าธรรมเนียมสินเชื่อในอัตราพิเศษ (ต่ำกว่าอัตราปกติที่ระบุในข้อ4.1) โดยเมื่อมีเหตุผิดสัญญาเกิดขึ้น ผู้ให้กู้สงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมสินเชื่อที่ผู้กู้ได้รับให้เป็นอัตราค่าธรรมเนียมสินเชื่ออัตราปกติจนกว่าเหตุแห่งการผิดสัญญานั้นจะได้ถูกแก้ไข โดยไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยและ/หรือค่าธรรมเนียมที่ผู้ให้กู้ต้องแจ้งให้ผู้กู้ทราบล่วงหน้า 

11. ในกรณีที่ผู้กู้ย้ายที่อยู่หรือที่ทำงาน ผู้กู้จะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ให้กู้ทราบทันที ทั้งนี้ ผู้ให้กู้จะส่งหนังสือหรือคำบอกกล่าวสำคัญตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคให้ผู้กู้ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ บรรดาเอกสาร หรือหนังสือใดๆ ที่ผู้ให้กู้ส่งไปยังผู้กู้ไม่ว่าจะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือไม่ลงทะเบียน หรือให้คนนำไปส่งเองก็ตาม ถ้าหากส่งไปยังที่อยู่และ/หรือ ที่ทำงานตามที่แจ้งไว้ให้ถือว่าส่งให้ผู้กู้แล้วโดยชอบ ทั้งนี้ไม่จำต้องคำนึงว่าจะถึงตัวผู้กู้หรือมีผู้ใดรับไว้หรือไม่ก็ตาม 

12. ผู้กู้ยอมรับว่า บัตรเป็นทรัพย์สินของผู้ให้กู้ ผู้กู้ตกลงจะส่งมอบบัตรคืนแก่ผู้ให้กู้ทันทีที่ได้รับการร้องขอ และผู้กู้ต้องลงลายมือชื่อบนด้านหลังบัตรทันทีที่ได้รับและเก็บรักษาบัตรพร้อมทั้งเลขรหัสประจำตัวให้ปลอดภัยและเป็นความลับตลอดเวลา หากเกิดความเสียหายใดๆ เนื่องจากบัตรสูญหายหรือการไม่ปฏิบัติตามกรณีดังกล่าวข้างต้น หรือปฏิบัติด้วยความล่าช้าให้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้กู้ทั้งสิ้น 

13. ในกรณีที่บัตรสูญหาย หรือถูกโจรกรรม หรือผู้กู้ประสงค์ขอระงับการใช้บัตรผู้กู้จะต้องแจ้งให้ผู้กู้ทราบด้วยวาจาหรือเป็นลายลักษณ์อักษรทันทีหลังจากผู้ให้กู้ได้รับแจ้งแล้วผู้ให้กู้ระงับการให้บริการดังกล่าวภายใน 5 นาที นับแต่เวลาที่ได้รับแจ้ง หากผู้ให้กู้ไม่ได้รับแจ้งดังกล่าวข้างต้น และมีผู้อื่นนำบัตรไปใช้ ผู้กู้ต้องรับผิดชอบชดใช้หนี้ตามรายการที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรที่เกิดขึ้นภายหลังจากการแจ้ง หากปรากฏโดยชัดแจ้งว่าภาระหนี้ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของผู้กู้เองสำหรับกรณีการเบิกถอนเงินสด ผู้กู้จะต้องรับผิดชอบชดใช้เงินที่เบิกตลอดจนค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าจนกว่าผู้ให้กู้จะได้รับแจ้งว่าผู้กู้ประสงค์จะขอระงับการใช้บัตรและผู้ให้กู้ได้ระงับการให้บริการบัตรแล้ว 

14. ผู้กู้ตกลงยินยอมให้ผู้กู้ ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด/บริษัทข้อมูลเครดิต เปิดเผยหรือให้ข้อมูลเครดิตของผู้กู้แก่บริษัทซึ่งเป็นผู้กู้หรือผู้ใช้บริการของบริษัทข้อมูลเครดิตเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์สินเชื่อ ตามคำขอสินเชื่อ/ขอปรับวงเงินสินเชื่อของผู้กู้ และ/หรือรวมทั้งเพื่อประโยชน์ในการทบทวนสินเชื่อต่ออายุสัญญาสินเชื่อ ปรับลดวงเงินสินเชื่อ การบริหารและป้องกันความเสี่ยงตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่กฏหมายกำหนด และผู้กู้ตกลงให้ผู้กู้สามารถนำผลการตรวจสอบดังกล่าวมาใช้ในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้กู้ว่ามีลักษณะเข้าข่ายกรณีต่าง ๆ ตามข้อ 8. หรือไม่ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงประเภทบัญชีสินเชื่อ ชื่อเรียกของสินเชื่อ เลขที่บัญชีสินเชื่อ และ/หรือการโอนบัญชีสินเชื่อเดิม ของกู้ ผูกู้ตกลงและยินยอมให้ผู้ให้กู้ใช้หนังสือให้ความยินยอมฉบับเดิม หรือหลักฐานการให้ความยินยอมที่ผู้กู้ได้เคยให้ไว้สำหรับบัญชีสินเชื่อใหม่ได้โดยไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมในเรื่องดังกล่าวจากผู้กู้อีกเพื่อประโยชน์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น 

15. ผู้กู้ยินยอมให้กู้โอนสิทธิตามข้อกำหนดและเงื่อนไขตามสัญญาฉบับนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่บุคคลภายนอกได้โดยผู้ให้กู้จะส่งคำบอกกล่าวการโอนให้ผู้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหนึ่งรอบบัญชี 

16. สัญญากู้ยืมนี้ เป็นสัญญาต่อเนื่องไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดจนกว่าผู้ให้กู้จะบอกกล่าวเลิกสัญญาให้ผู้กู้ทราบ ผู้ให้กู้สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขของการใช้สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าธรรมเนียม ค่าบริการต่าง ๆ ได้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยผู้ให้กู้จะแจ้งให้ผู้กู้ทราบโดยปิดประกาศที่สำนักงานหรือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรในใบแจ้งยอดชำระเงินรายเดือน ล่วงหน้าก่อนจะถือปฏิบัติไม่น้อยกว่าสามสิบ (30) วัน เว้นแต่ในกรณีเร่งด่วน ผู้ให้กู้จะแจ้งให้ทราบทางจดหมายหรือประกาศทางหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทยล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ด (7) วัน และแจ้งให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้และผู้กู้ตกลงผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขใหม่ที่แจ้งให้ทราบแล้วโดยไม่ต้องทำเอกสารหลักฐานใด ๆ ให้แก่ผู้ให้กู้อีกทั้งสิ้น 

17. ใบสมัครสินเชื่อ หนังสือยินยอมเปิดเผยข้อมูลที่ผู้กู้ได้ลงนาม ประกาศอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม (รวมทั้งที่ผู้ให้กู้อาจประกาศเปลี่ยนแปลงภายหลัง) ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ในกรณีที่ข้อความใดข้อความหนึ่ง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้สินเชื่อฉบับนี้กลายเป็นข้อความที่เป็นโมฆะ ขัดกับกฎหมาย ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่สมบูรณ์ หรือใช้บังคับมิได้ในประการใดๆ ตามกฎหมายให้ส่วนอื่นๆของข้อกำหนด และเงื่อนไขการใช้สินเชื่อฉบับนี้ยังคงมีผลสมบูรณ์ ยังคงชอบด้วยกฎหมาย และใช้บังคับได้ตามกฎหมายและไม่เสื่อมเสียไปเพราะความเป็นโมฆะ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สมบูรณ์ หรือใช้บังคับมิได้ของข้อความดังกล่าวนั้น ผู้กู้ได้อ่านและเข้าใจข้อตกลงและเงื่อนไขของสัญญาให้สินเชื่อเงินสดฉบับนี้แล้วเห็นว่าถูกต้องตามเจตนารมณ์และความประสงค์ของผู้กู้ทุกประการจึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานในใบสมัครสินเชื่อบุคคลและผู้กู้จะได้รับสำเนาสัญญาให้สินเชื่อบุคคลพร้อมหนังสืออนุมัติเงินกู้