พูดคุยกับเราได้ที่

0 2646 3555

10 เทศกาลญี่ปุ่น ที่คุณไม่ควรพลาด

เปิดลิสต์ 10 เทศกาลของญี่ปุ่น ที่คุณไม่ควรพลาด
 
หิมะซัปโปโร เทศกาลในญี่ปุ่น ฤดูหนาว

เคยสงสัยไหม...ทำไมใคร ๆ ถึงหลงรักประเทศญี่ปุ่น
...เพราะการเดินทางที่สะดวก
...เพราะอาหารรสชาติเยี่ยม
...เพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย
หรืออาจด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ที่ไม่ว่าคุณจะมากี่ครั้งก็ต้องตกหลุมรักทุกครั้งอย่างแน่นอน

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นของญี่ปุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือเอกลักษณ์วัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ ทำให้ญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศที่มีกิจกรรมและเทศกาลสำคัญตลอดทั้งปี เพื่อเฉลิมฉลองประเพณี ความเชื่อ สะท้อนความเป็นอยู่ของผู้คน และเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาจอยโมเมนต์กับบรรยากาศที่แสนคึกคัก สร้างรายได้ให้ประเทศ พร้อมกับประสบการณ์ดี ๆ ให้แขกที่มาเยือนได้ตลอดปี

โดยแต่ละเทศกาลของประเทศญี่ปุ่นนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละฤดู ความเชื่อ ประเพณี ของผู้คนในแต่ละเมือง วันนี้เราเลยพาทุกคนมาทัวร์ “10 เทศกาลของญี่ปุ่นน่าสนใจที่คุณต้องลองไปสักครั้ง” ไม่ว่าจะตีตั๋วบินไปเที่ยวช่วงเดือนไหนก็มีกิจกรรมให้เราได้ร่วมสนุกได้ตลอดทั้งปีแน่นอน
 

1. เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)


หิมะซัปโปโร เทศกาลในญี่ปุ่น ฤดูหนาว
 
เริ่มกันที่ไฮไลต์แห่งฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น อย่าง “เทศกาลหิมะซัปโปโร” เทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น โดยพระเอกของงานนี้ก็คือการประกวดแกะสลักหิมะและน้ำแข็งสุดอลังการกว่า 200 ผลงาน จากตัวแทนแต่ละประเทศ แถมยังมีประติมากรรมหิมะให้เราได้ชมความสวยงามอย่างจุใจ ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด
  • ช่วงเวลาจัดงาน : ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์
  • สถานที่จัดงาน : Odori Park, Tsudome Sapporo Community Dome และ Susukino Site เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด (ขึ้นอยู่กับการจัดงานแต่ละปี)
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : สวนโอโดริ (Odori Park) ถือเป็นพื้นที่จัดงานหลักของเทศกาล แสดงผลงานศิลปะจากหิมะและน้ำแข็งยาวกว่า 1.5 กม. พร้อมไฟประดับที่สร้างสีสันให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเช็กอินยามค่ำคืน
 
 

2. เทศกาลทานาบาตะ มัตสึริ (Tanabata Festival)


ทานาบาตะ มัตสึริ (Tanabata Festival) เทศกาลขอพรดวงดาวของญี่ปุ่น

มาต่อที่เทศกาลของญี่ปุ่นสุดน่ารักอย่าง “เทศกาลทานาบาตะมัตสึริ” หรือเทศกาลขอพรดวงดาว เพื่อระลึกถึงตำนานความรักและความสมหวังระหว่างดาว 2 ดวงของชาวญี่ปุ่น โดยในวันนี้ผู้คนจะเขียนคำขอพรลงบนกระดาษที่เรียกว่า ทังซะคุ (Tanzaku) และนำไปผูกไว้บนกิ่งของต้นไผ่พร้อมของตกแต่งอื่น ๆ เพื่อเป็นการอธิษฐานขอพรจากดวงดาวให้ประทานสุขและความสมหวังให้กับผู้ขอ
  • ช่วงเวลาจัดงาน : วันที่ 7 กรกฎาคม ของทุกปี
  • สถานที่จัดงาน : สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ รวมทั้งทางเดินในโรงเรียนและทางเข้าบ้านของคนญี่ปุ่น
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : โชนันสตาร์มอลล์ (Shonan Star Mall) สถานที่หลักในการจัดงาน ถูกตกแต่งไปด้วยต้นไผ่ที่ประดับไฟเป็นแลนด์มาร์กให้กับงาน รวมทั้งมีกิจกรรมอีเวนต์และขบวนพาเหรดอีกด้วย
 

3. เทศกาลนูมาตะ (The Numata Tengu Festival)


เทศกาลนูมาตะ (The Numata Tengu Festival) เทศกาลในเดือนสิงหาคมของญี่ปุ่น

ตามมาด้วยเทศกาลของญี่ปุ่นอย่าง เทศกาลแห่ศาลเจ้าเคลื่อนที่โดยงานจะจัดขึ้นนาน 3 วัน มีขบวนแห่ศาลเจ้าเคลื่อนที่ "ไดเท็งงุ มิโคชิ" ภูตจมูกยาวจากนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นไปตามท้องถนน พร้อมประโคมเสียงเพลงเฉลิมฉลองทั่วทั้งเมือง เพื่อเพิ่มสีสันและความครึกครื้นให้กับเทศกาลนี้ โดยเป็นประเพณีที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าจะช่วยขับไล่วิญญาณร้ายและนำพาโชคดีมาให้นั่นเอง
  • ช่วงเวลาจัดงาน : ต้นเดือนสิงหาคม
  • สถานที่จัดงาน : เมืองนูมาตะ จังหวัดกุนมะ
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : บนถนนทั่วเมืองนูมาตะ โดยทุกปีจะมีผู้คนมาร่วมงานกว่า 200,000 คนเข้าร่วมเทศกาลนี้
 

4. เทศกาลเนบุตะ มัตสึริ (Aomori Nebuta Matsuri)


เนบุตะ มัตสึริ (Aomori Nebuta Matsuri) เทศกาลแห่งโคมไฟของญี่ปุ่น

เทศกาลของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยโคมไฟสุดตระการตาแห่งจังหวัดอาโอโมริ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 300 ปี ภายในงานมีการแห่โคมไฟคาบูกิที่ทำมาจากกระดาษสี พร้อมโคมไฟสวยงามอื่น ๆ ทั้งโคมไฟยักษ์ที่สูงถึง 5 เมตร อีกทั้งยังมีขบวนเต้นระบำพื้นเมืองในช่วงกลางวันและกลางคืน เรียกว่าเป็นบรรยากาศที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลับมาชมซ้ำได้ทุกปี
  • ช่วงเวลาจัดงาน : ประมาณวันที่ 2 - 7 สิงหาคม ของทุกปี (บางปีอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
  • สถานที่จัดงาน : จังหวัดอาโอโมริ
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : พิพิธภัณฑ์เนบุตะวารัสเซ่ สถานที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเทศกาลเนบุตะมัตสึริ ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีโคมจากเทศกาลในปีก่อน ๆ และการแสดงให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานได้ แม้ไม่ได้ร่วมเทศกาลในวันดังกล่าว
 

5. เทศกาลฮอกไก เฮโสะ (Hokkai Heso Matsuri)


เทศกาลแปลก ๆ ในญี่ปุ่น เทศกาลฮอกไก เฮโสะ

อีกหนึ่งเทศกาลแห่งรอยยิ้มในเมืองชิบุคาวะ เมืองที่ถือว่าเป็นสะดือของญี่ปุ่น โดยมีกิจกรรมพาเหรดที่ผู้ร่วมขบวนจะวาดใบหน้าทั่วบริเวณท้องแล้วเปิดโชว์สะดือ พร้อมเต้นรำอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีร้านค้าจำหน่ายวัตถุดิบท้องถิ่นและเมนูพิเศษเฉพาะเทศกาลอีกด้วย
  • ช่วงเวลาจัดงาน : วันที่ 28 - 29 กรกฎาคม ของทุกปี
  • สถานที่จัดงาน : เมืองฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : ย่านการค้าบนถนนชินอะอิโออิ ที่เนรมิตให้เป็นพื้นที่จัดงานพิเศษสำหรับเทศกาล
 

6. เทศกาลชินจูกุ ไอสะ (Shinjuku Eisa Festival)

 เทศกาลชินจูกุ ไอสะ (Shinjuku Eisa Festival) เทศกาลระบำของญี่ปุ่น

อีกหนึ่งเทศกาลระบำของญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนของกรุงโตเกียว ภายในงานมีขบวนนักดนตรีและนักแสดงพื้นบ้านมาร่ายรำสไตล์โอกินาวะแบบดั้งเดิม นักท่องเที่ยวสามารถร่วมชมการแสดงได้ยาว ๆ แบบจุใจตั้งแต่เที่ยงวันถึงสองทุ่ม
  • ช่วงเวลาจัดงาน : ปลายเดือนกรกฎาคมของทุกปี
  • สถานที่จัดงาน : ย่านชินจูกุ เมืองโตเกียว
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : บริเวณรอบประตูทิศตะวันออกของสถานีชินจูกุ ตั้งแต่เวลา 12.00 - 20.00 น.
 

7. เทศกาลมาเอะบาชิ ฮัตสึอิจิ (Maebashi Hatsuichi Festival)


เทศกาลมาเอะบาชิ ฮัตสึอิจิ (Maebashi Hatsuichi Festival)

เทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นจะนำตุ๊กตาดะรุมะหรือตุ๊กตาล้มลุกตัวเก่ามาที่ศาลเจ้า เพื่อทำพิธีเผาทำลายในเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อว่าเทพแห่งไฟจะช่วยนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลับคืนสู่สรวงสวรรค์ ส่วนผู้ร่วมงานที่ได้อังไฟนี้จะช่วยขับไล่ปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บได้ อีกทั้งภายในงานมีตลาดนัดจำหน่ายเครื่องราง เสริมมงคลให้ครอบครัวและกิจการค้าขายรุ่งเรือง
  • ช่วงเวลาจัดงาน : วันที่ 9 มกราคม ของทุกปี
  • สถานที่จัดงาน : เมืองมาเอะบาชิ จังหวัดกุนมะ
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : ตลาดนัดย่านการค้ามาเอะบาชิ และถนนเลียบทางรถไฟชินคันเซ็น
 

8. เทศกาลงูใหญ่แห่งโออิงามิ ออนเซ็น (Oigami Onsen Daija Festival)


เทศกาลงูใหญ่แห่งโออิงามิ ออนเซ็น (Oigami Onsen Daija Festival) เทศกาลขอบคุณงูยักษ์ของชาวญี่ปุ่น

เทศกาลขอบคุณงูยักษ์ของชาวญี่ปุ่น ตามความเชื่อว่างูยักษ์เป็นเทพที่ค้นพบแหล่งน้ำพุร้อนโออิงามิแห่งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมแห่ศาลเจ้างูใหญ่ขนาด 30 เมตรไปตามถนน และทุก ๆ 12 ปี จะมีการแห่ศาลเจ้างูขนาดใหญ่ 108 เมตร เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและขอบคุณเทพนั่นเอง
  • ช่วงเวลาจัดงาน : สุดสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม
  • สถานที่จัดงาน : แหล่งน้ำพุร้อนโออิงามิ ออนเซ็น จังหวัดกุนมะ
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : โออิงามิ ออนเซ็น เมืองบ่อน้ำพุร้อนริมหุบเขาคาตาชินะ สถานที่ที่เชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของการค้นพบบ่อน้ำพุร้อน


9. เทศกาลฮานาบิ (Hanabi Festival)


เทศกาลฮานาบิ (Hanabi Festival) เทศกาลดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น
 
เทศกาลดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น และเป็นเทศกาลแห่งสีสันในช่วงฤดูร้อนที่หลายคนรอคอย โดยจะมีการจัดแสดงดอกไม้ไฟทั่วประเทศ สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามและความอลังการของพลุไฟแล้ว ยังสามารถเดินช้อปอาหารพื้นเมืองได้ ทั้งอิ่มท้องทั้งอิ่มใจได้ในเวลาเดียวกัน
  • ช่วงเวลาจัดงาน : ปลายเดือนกรกฎาคม - เดือนสิงหาคม ของทุกปี (ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่)
  • สถานที่จัดงาน : ทั่วประเทศญี่ปุ่น
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : ริมแม่น้ำสุมิดะ เมืองโตเกียว สถานที่ที่จัดเทศกาลดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุด สวยที่สุด รับชมดอกไม้ไฟได้ถึง 20,000 ลูก โดยมีแบ็กกราวนด์เป็น Tokyo Sky Tree บอกเลยว่าได้ชมแล้วต้องรัวชัตเตอร์ไม่หยุดแน่นอน
 

10. เทศกาลคิริว ยางิบุชิ (Kiryu Yagibushi Festival)


เทศกาลรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เทศกาลคิริว ยางิบุชิ (Kiryu Yagibushi Festival)

เทศกาลรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ในจังหวัดกุนมะ เฉลิมฉลองยาวนานถึง 3 วัน ภายในงานมีการตั้งเวทีตามจุดต่าง ๆ ในเมือง ให้ผู้ร่วมงานสามารถเดินชมไปตามถนน รายล้อมไปด้วยเสียงกลองสุดคึกคักตลอดทั้งงาน พร้อมเต้นรำเป็นกลุ่มกับผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ ซึ่งไฮไลต์ของงานคือการจุดโคมไฟบนแท่นสูงในกลางจัตุรัสเพื่อเป็นแลนด์มาร์กและสีสันสะดุดตาในยามค่ำคืน
  • ช่วงเวลาจัดงาน : วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์แรก ของเดือนสิงหาคม
  • สถานที่จัดงาน : เมืองคิริว จังหวักกุนมะ
  • พิกัดที่มีชื่อเสียง : บนถนนสายหลักใจกลางเมืองคิริว กว่า 2.5 กิโลเมตร
 
ครบแล้วกับทั้ง 10 เทศกาลของญี่ปุ่นที่เราเอามาฝากกัน อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงมีเทศกาลในญี่ปุ่น ที่อยากลองไปสัมผัสบรรยากาศงานสักครั้ง และอาจกลายเป็นหนึ่งจุดหมายสำคัญในแพลนเที่ยวญี่ปุ่นของคุณในครั้งหน้าอย่างแน่นอน แต่นอกจาก 10 เทศกาลในญี่ปุ่นที่เราได้เอามาฝากกันในบทความนี้ ยังมีอีกหลากหลายเทศกาลที่รอให้คุณอยู่ รับรองว่าได้ลองสักครั้งต้องคุ้มค่าแน่นอน
 
แต่ก่อนจะตีตั๋วบินไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น วันนี้เรามีอีกหนึ่งเคล็ดลับเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสบายใจที่อยากมาแนะนำกัน นั่นก็คือ บัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม” บัตรเครดิตที่ตอบโจทย์สายเที่ยว สะดวกสบายทุกการเดินทาง ด้วยบริการ Airport Lounge ที่สนามบินในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังช้อปได้ประหยัดยิ่งกว่าเดิมรับเครดิตเงินคืน 3% เมื่อใช้จ่ายที่ร้านอาหารทั่วโลก เรียกว่าจะเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที จะสายช้อป สายกิน หรือทัวร์เมืองเทศกาล ก็ฟินตลอดทริปแน่นอน ดูความพิเศษเพิ่มเติมได้เลยที่ คลิก เที่ยวเทศกาลในญี่ปุ่นแล้วชอบเทศกาลไหนมากที่สุด อย่าลืมมาแชร์กัน



สมัครบัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม