หนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถือได้ว่าถูกสร้างมาเพื่อการทำความสะอาดอย่างแท้จริง “เครื่องดูดฝุ่น” นวัตกรรมที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่รักในความสะอาดบอกลาปัญหาฝุ่นและสิ่งสกปรก
เนื่องจาก “ฝุ่น” มลภาวะที่ส่งผลโดยตรงต่อระบบหายใจและสุขภาพร่างกาย จึงทำให้ในปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นได้กลายมาเป็นตัวเลือกสำคัญในการกำจัดฝุ่นในสถานที่ต่าง ๆ ตามที่อยู่อาศัย, สถานที่ทำงาน หรือแม้แต่สถานที่อื่น ๆ
ใครที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับฝุ่นและไรฝุ่น และยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่นแต่ละแบบมีการออกแบบเพื่อการใช้งาน ในพื้นที่ โจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แล้วต้องเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี เราขอแนะนำ
10 เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ราคาดี เสียงเงียบ ใช้ทน
เครื่องดูดฝุ่นแต่ละประเภท
ปัจจุบันแต่ละแบรนด์ พยามออกนวัตกรรมเครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่ ๆ เพื่อการใช้งานและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แล้วเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี ซึ่งเราจะมาจำแนกเครื่องดูดฝุ่นไว้ด้วยกันดังนี้
1. เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่อง (Canister Vacuum Cleaners)
เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้มีพื้นที่กักเก็บฝุ่นในปริมาณมาก โดยตัวเครื่องจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือหัวแปรงดูดฝุ่น ด้ามจับ และกล่องเก็บฝุ่น เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีพลังในการดูดสูง ดูดฝุ่นได้เร็วและดูดแบบสะอาดหมดจด
2. เครื่องดูดฝุ่นมือถือ (Handheld Vacuum Cleaner)
เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดเล็กน้ำหนักไม่มากนัก จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก เพราะสะดวกพกพาง่าย เน้นทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็กตาม รถยนต์ ซอกเคสคอมพิวเตอร์ ซอกโต๊ะ หรือ ซอกในตู้เสื้อผ้า
3. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย / เครื่องดูดฝุ่นด้ามจับ (Stick Vacuum Cleaner)
เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีลักษณะเหมือนกับด้ามไม้กวาด มีพลังในการดูดไม่มากถ้าเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่อง เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีรูปร่างเพรียวบาง ไม่มีกล่องสำหรับเก็บฝุ่น ตัวเครื่องจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี จึงสามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟกวนใจ
4. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robotic Vacuum Cleaner)
อีกก้าวของนวัตกรรมดูดฝุ่น เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถดูดฝุ่นได้เองโดยที่คุณไม่ต้องลงแรง ด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะทำให้ตัวเครื่องเดินหน้าดูดฝุ่นด้วยตัวเอง เหมาะสำหรับพื้นที่กว้าง เพราะที่แคบอาจจะเข้าไปดูดฝุ่นออกมาไม่ได้ มีเซ็นเซอร์ดักจับฝุ่นแล้วแต่รุ่นทำให้สามารถดูดฝุ่นตามพื้นห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี ข้อเสียของเครื่องดูดฝุ่นแต่ละประเภท
เครื่องดูดฝุ่นแต่ละประเภทมักมาพร้อมกับ จุดเด่น และจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ทำให้คุณจำเป็นต้องเปรียบเทียบก่อนจะเลือกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี เราได้จำแนกข้อดี ข้อเสียของเครื่องดูดฝุ่นแต่ละประเภทมาไว้ด้วยกันดังนี้
1. เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่อง (Canister Vacuum Cleaners)
ข้อดี : เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ มีการแบ่งส่วน แปรงดูดฝุ่น ด้ามจับ และกล่องเก็บฝุ่น กันอย่างชัดเจน ทำให้เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถดูดฝุ่นได้ปริมาณเยอะ และมีพื้นที่กักเก็บที่มากพอ ส่วนประสิทธิภาพในการดูดจะเน้นที่ความแรงขนาดที่ของเหลวยังสามารถดูดได้
ข้อเสีย : เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดใหญ่และยังคงต้องเสียบสายไฟเพื่อการใช้งานอยู่ ทำให้มีข้อจำกัดคือไม่สามารถดูดฝุ่นในที่แคบหรือดูดฝุ่นได้ไกลจากสายไฟได้
2. เครื่องดูดฝุ่นมือถือ (Handheld Vacuum Cleaner)
ข้อดี : มาพร้อมกับความ เล็ก เบา กะทัดรัด จึงทำให้สามารถพกพาไปใช้งานตามส่วนต่างๆ ของบ้านได้ สามารถเข้าถึงบริเวณที่เล็กหรือไม่สะดวกอย่างเช่นบนตู้หรือบริเวณที่สูงๆ หรือจะใช้สำหรับดูดฝุ่นในผ้าม่าน รถยนต์ หรือเครื่องใช้อื่น ๆ ก็ยังได้
ข้อเสีย : เป็นเครื่องดูดที่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่เสมอก่อนใช้ อาจจะดูดฝุ่นเป็นเวลานานๆ ไม่ค่อยได้ จึงไม่เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่สักเท่าไหร่
3. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย / เครื่องดูดฝุ่นด้ามจับ (Stick Vacuum Cleaner)
ข้อดี : ตัวเครื่องดูดฝุ่นจะมีขนาดเพรียวบาง เนื่องจากไม่มีกล่องเก็บฝุ่นแต่เป็นช่วงเก็บฝุ่นที่ใหญ่ไม่มากถอดทำความสะอาดง่าย เวลาใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องเสียบสายไฟ ทำให้ไม่ว่าจะไกลหรือซอกซอนไหนก็สามารถดูดฝุ่นได้สะดวกเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะกับคอนโดหรือบ้านที่ต้องหลบหลีกการใช้เสียงที่อาจจะรบกวนผู้อื่นเพราะทำงานเงียบ
ข้อเสีย : ทุกครั้งที่ใช้จำเป็นต้องชาร์จไฟหลังจากทำความสะอาดแต่ละครั้ง ความแรงในการดูดฝุ่นอาจน้อยกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องประมาณหนึ่ง
4. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robotic Vacuum Cleaner)
ข้อดี : ตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวกสามารถทำความสะอาดได้เองแบบอัตโนมัติด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะ บางรุ่นสามารถกลับเข้าสู่ที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเองได้อีกด้วย มาพร้อมขนาดที่เล็กจึงสามารถซอกซอนไปในที่ ๆ เครื่องดูดฝุ่นแบบอื่นไม่สามารถเข้าถึงได้
ข้อเสีย : ยังคงติดปัญหาเรื่องระบบที่บางครั้งอาจชอบติดสายไฟเวลาดูดฝุ่น อาจยังไม่สามารถเข้าถึงพรมที่ขนยาวได้และยังไม่สามารถทำความสะอาดได้ทั่วทั้งพื้นที่ 100% ถึงแม้บางรุ่นจะมีระบบ mapping system แล้ว
วิธีการเลือกเครื่องดูดฝุ่น
การเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดีจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทราบเกี่ยววิธีการเลือกเครื่องดูดฝุ่น เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพตอบโจทย์การใช้งานในที่แต่ละพื้นที่มากที่สุด
1. กำลังการทำงาน
สำหรับเครื่องดูดฝุ่นแล้ว แต่ละพื้นที่จะเหมาะกับการใช้กำลังไฟฟ้าที่ต่างกัน ซึ่งคุณสามารถคำนวณจากพื้นที่เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยเครื่องดูดฝุ่นสำหรับใช้ภายในบ้านควรมีกำลังไฟอยู่ที่ 700-1200 วัตต์
2. ระบบกรองฝุ่น
เป็นส่วนที่มีหน้ากรองสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง ไรฝุ่น เชื้อโรค เชื้อรา สารกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ เป็นต้น โดยการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นควรเลือกเครื่องที่มีระบบกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ สามารถดักจับฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กได้
3. มอเตอร์
มอเตอร์ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นเลยก็ว่าได้ โดยถูกออกแบบมาเพื่องานทำความสะอาดหนัก ๆ ที่ต้องใช้แรงดูดสูงเพื่อทำความสะอาด
ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกมอเตอร์ที่ให้ลมแรงและสม่ำเสมอทำงานได้อย่างมีประสทธิภาพสูงสุด ตลอดจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
4. อุปกรณ์เสริม
นับว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เหมือนกันสำหรับเครื่องดูดฝุ่น เนื่องจากอุปกรณ์เสริมของเครื่องดูดฝุ่นเป็นสิ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นทุกครั้งที่ซื้อเครื่องดูดฝุ่นต้องเช็คเหมาะว่ามีอุปกรณ์เสริมครบหรือเปล่า
5. ดูแลรักษาง่าย
การดูแลรักษาเครื่องดูดฝุ่นเป็นอีกส่วนสำคัญ ที่คุณไม่ควรมองข้ามเพราะถือว่าเป็นการช่วยทำให้เครื่องดูดฝุ่นอยู่คู่บ้าน ใช้งานได้นาน ๆ ดังนั้นควรศึกษาวิธีการดูแลรักษาเครื่องดูดฝุ่นให้ดี
10 เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี
1. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Xiaomi รุ่น Mi Vacuum Cleaner Light
พร้อมมอบความสะดวกของการดูดฝุ่นเพียงสัมผัสแค่ปลายนิ้ว เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดีขอแนะนำ Xiaomi เครื่องดูดฝุ่นที่มาพร้อมแรงดูดสูงถึง 17000 Pa ที่สามารถทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุม มีฟิลเตอร์กรองฝุ่น HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นละอองได้ถึง 99.97% สะอาด สะดวก ใช้งานง่าย
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
113.2 x 24 x 14.8 |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
1.2 Kg. |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
0.5 |
| • กำลังไฟ |
220 W |
| • กำลังในการดูด |
17,000 Pa |
| • การรับประกันสินค้า |
ไม่ได้ระบุ |
| • ราคา |
4,990 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
Shopee |
2. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson รุ่น V8 Slim
เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ต้อง Dyson รุ่น V8 Slim เครื่องนี้ที่มาพร้อมระบบไซโคลน 2 ชั้น ไม่เสียแรงดูด เพิ่มประสิทธิภาพการดูด มอเตอร์ระบบดิจิตอล มาพร้อมฟิลเตอร์ด้านท้ายเครื่อง ช่วยกรองฝุ่นและดักจับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศที่ออกจากเครื่องให้บริสุทธิ์ ทิ้งฝุ่นแบบถูกสุขอนามัย
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
25.00 x 114.40 x 21.00 |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
2.15 |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
0.54 |
| • กำลังไฟ |
425 W |
| • กำลังในการดูด |
19.5-115 |
| • การรับประกันสินค้า |
2 |
| • ราคา |
15,900 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
Dyson |
3. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Tefal X-PERT ESSENTIAL 360 รุ่น TY7329WO
หากถามว่าเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดีก็ต้อง Tefal X-PERT ESSENTIAL 360 รุ่น TY7329WO เพราะคลิกเดียว พิชิตฝุ่น ทุกพื้นผิวตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน พร้อมมอบประสิทธิภาพยอดเยี่ยมตั้งแต่พื้นจรดเพดานคงความสะอาดให้กับบ้านของคุณ
ด้วยเครื่องดูดฝุ่นแบบ all-in-one ที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดครบทุกองศาในเครื่องเดียว ใช้งานได้ยาวนานโดยที่ฝุ่นไม่เต็มเร็วแบบตัวกรองรุ่นเก่า ด้วยเทคโนโลยี Advanced Cyclonic อันทันสมัย
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
15.4 x 34.5 x 74.2 |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
3.5 Kg. |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
0.4 |
| • กำลังไฟ |
ไม่ได้ระบุ |
| • กำลังในการดูด |
6,500 Pa |
| • การรับประกันสินค้า |
2 ปี |
| • ราคา |
6,590 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
Shopee |
4. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Pando รุ่น V9 Pro
เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Pando รุ่น V9 Pro นวัตกรรมเครื่องดูดฝุ่นไร้ขนแปรง Brushless motor ที่สามารถช่วยลดเสียงดังรบกวนให้น้อยกว่า 80 dB มาพร้อมตัวกรองที่มีประสิทธิภาพที่สามารถกรองตัวฝุ่นขนาดเล็กได้อย่างดีเยี่ยม
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
22.40 x 12.70 x 108.3 |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
1 Kg. |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
100 มล. |
| • กำลังไฟ |
120 W |
| • กำลังในการดูด |
6,500 Pa |
| • การรับประกันสินค้า |
1 ปี |
| • ราคา |
1,499 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
Lazada |
5. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย LG รุ่น A9K-ULTRA
เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ที่มาพร้อมกับพลังดูดสูง และแบตเตอรี่แบบ Dual PowerPack ก็ต้อง LG รุ่น A9K-ULTRA เพราะสามารถทำความสะอาดและชาร์จในเวลาเดียวกัน ขจัดฝุ่นภายในบ้านได้อย่างอิสระ สามารถทำความสะอาดบ้านได้อย่างต่อเนื่อง ใช้งานได้ไกลโดนที่ไม่ต้องพะวงเรื่องสายไฟ
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
112 x 26 x 27 |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
2.6 Kg. |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
0.44 |
| • กำลังไฟ |
25.2 W |
| • กำลังในการดูด |
210 |
| • การรับประกันสินค้า |
ไม่ได้ระบุ |
| • ราคา |
22,900 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
LG |
6. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ASTON SMART ROBOT
หากถามว่าเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ ผู้ช่วยเเม่บ้านตัวจริง เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาไปใช้งานได้ทุกพื้นที่มาพร้อมกับระบบดูดและกวาดในเครื่องเดียว ช่วยให้บ้านสะอาดได้ถึง 2 เท่า
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
23 x 6 cm. |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
0.76 Kg. |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
ไม่ได้ระบุ |
| • กำลังไฟ |
ไม่ได้ระบุ |
| • กำลังในการดูด |
1,200 Pa |
| • การรับประกันสินค้า |
ไม่ได้ระบุ |
| • ราคา |
3,980 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
Aston1 |
7. AUTOBOT รุ่น Smart Mark 3
เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ก็ต้องนี่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น 3 in 1 ที่สามารถดูดฝุ่นและกวาดถูพื้นได้ครบจบในเครื่องเดียว สามารถทำความสะอาดบ้านได้ครบทุกพื้นที่อย่างชาญฉลาด พร้อมให้คุณควบคุมการทำงานได้สะดวกง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน Autobot robotics โดยทำงานด้วยระบบการนำทาง GYRO mapping และ smart pattern navigator
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
32 x 32 x 8 |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
2.2 Kg. |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
ไม่ได้ระบุ |
| • กำลังไฟ |
2,600 mAh |
| • กำลังในการดูด |
1,000 Pa |
| • การรับประกันสินค้า |
1 ปี |
| • ราคา |
11,900 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
Lazada |
8. Xiaomi Mi Robot Vacuum EU หุ่นยนต์ทำความสะอาด
เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ ตัวช่วยที่พร้อมทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมภายในบ้าน มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย ตัวเครื่องสามารถวิเคราะห์พื้นที่และการเดินทาง เพื่อทำความสะอาดโดยอัตโนมัติ มาพร้อมความสามารถในการทำความสะอาดต่อเนื่อง 2.5 ชั่วโมง หรือ 250 ตารางเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
34.50 x 34.50 x 9.60 |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
0.03 Kg. |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
ไม่ได้ระบุ |
| • กำลังไฟ |
ไม่ได้ระบุ |
| • กำลังในการดูด |
ไม่ได้ระบุ |
| • การรับประกันสินค้า |
1 ปี |
| • ราคา |
10,900 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
Shopee |
9. Samsung เครื่องดูดฝุ่น รุ่น VCC4540S36
เครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำเครื่องดูดฝุ่นคุณภาพ ดีไซน์สวยงามมีขนาดกะทัดรัด มาพร้อมคุณสมบัติในการกรองฝุ่นคุณภาพ และหัวแปรง 2-STEP สามารถดูดพื้นผิวไม้และพรมได้สะดวกง่ายต่อการใช้งาน มีหัวแปรง 2-IN-1 ที่ปรับใช้ได้อเนกประสงค์
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
28.0 x 23.8 x 39.5 |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
5.6 Kg. |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
1.3 |
| • กำลังไฟ |
1,800 W |
| • กำลังในการดูด |
360 |
| • การรับประกันสินค้า |
2 ปี |
| • ราคา |
1,680 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
Lazada |
10. Electrolux รุ่น EC31-2BB (1800W)
เครื่องฝุ่นแบบไหนดีที่มาพร้อมกับระบบที่ดูดได้ทั้งไปข้างหน้าและด้านหลัง สามารถดูดได้ตามผนังและเฟอร์นิเจอร์ ช่วยให้คุณทำความสะอาดได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลงทั้งบนพื้นแข็งและพรม ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี มีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้สะดวก
| • ขนาดของตัวเครื่อง |
31.00 x 35.00 x 41.50 |
| • น้ำหนักของตัวเครื่อง |
5.8 Kg. |
| • ความจุของถังเก็บฝุ่น |
1.8 |
| • กำลังไฟ |
1,800 W |
| • กำลังในการดูด |
ไม่ได้ระบุ |
| • การรับประกันสินค้า |
2 ปี |
| • ราคา |
2,890 บาท |
| • ช่องทางการสั่งซื้อ |
Lazada |
ก่อนจะรู้ว่าเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ทางที่ดีคุณควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องดูดฝุ่น เพื่อประสิทธิภาพและการใช้งานที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด ซึ่งตอนนี้ใคร ๆ ก็เป็นเจ้าของเครื่องดูดฝุ่นได้เพียงใช้
บัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม เพื่อรับเครดิตเงินคืน 5% ทุกไลฟ์สไตล์ดิจิทัล
และสามารถผ่อนสินค้าได้ 0% นานสูงสุด 10 เดือน หากใครสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นต่าง ๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Shopee และ Lazada ได้เลย
